
นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) ได้ออกประกาศเปิดทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของสหรัฐฯให้กับประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกรวมถึงไทย ประจำปี 55 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ได้แก่ ผู้ส่งออกไทย ผู้นำเข้าสหรัฐฯ และภาครัฐบาล สามารถยื่นคำร้องในการทบทวนสิทธิได้ภายในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ซึ่งมีสินค้าไทยที่สามารถยื่นคำร้องขอคงหรือคืนสิทธิจีเอสพีรวม 13 รายการ
ทั้งนี้สินค้าที่ไทยขอคงสิทธิจีเอสพีกรณีสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐฯ มีส่วนแบ่งตลาดเกิน 50% ของสินค้าชนิดดังกล่าวที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั่วโลก แต่มูลค่าการนำเข้ายังไม่ถึงเพดานที่กำหนดปี 55 เท่ากับ 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอยู่ 7 รายการ ได้แก่ ดอกกล้วยไม้สด มีส่วนแบ่งตลาด 58% แต่มูลค่าอยู่ที่ 8.98 ล้านดอลลารสหรัฐ, ทุเรียนสดส่วนแบ่ง 100% มูลค่า 2.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มะละกอตากแห้งส่วนแบ่ง 97% มูลค่า 4.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, มะขามตากแห้งส่วนแบ่ง 64% มูลค่า 2.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ข้าวโพดหวานปรุงแต่งส่วนแบ่ง 82% มูลค่า 8.22 ล้านดอลลาร์สหัรัฐ มะละกอแปรรูปส่วนแบ่ง 67% มูลค่า 4.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรูปปั้นเนื้อละเอียด ส่วนแบ่ง 55% มูลค่า 0.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนสินค้าที่ไทยขอคืนสิทธิจีเอสพีในกรณีสินค้าที่ถูกระงับสิทธิไปแล้ว แต่มูลค่านำเข้าสหรัฐฯ ในปีต่อมาต่ำกว่าเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด คือปี 55 เท่ากับ 155 ล้านดอลลาร์สหรัฐมี 6 รายการ ได้แก่ แป้งธัญพืชถูกตัดสิทธิเมื่อปี 49 มีมูลค่านำเข้าเพียง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ, ปลาแมกเคอเรลปรุงแต่งถูกตัดสิทธิปี 52 มีมูลค่านำเข้า 13.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กุ้งปรุงแต่งผสมเนื้อปลา ถูกตัดสิทธิปี 53 มีมูลค่า 0.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, เม็ดพลาสติกโพลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต ถูกตัดสิทธิปี 50 มีมูลค่า 3.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, บรรจุภัณฑ์ทำด้วยพลาสติกถูกตัดสิทธิปี 49 มูลค่า 139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และกระเบื้องปูพื้นและผนัง ถูกตัดสิทธิปี 32 มีมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“สหรัฐฯได้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยื่นคำร้องเพื่อขอคงหรือคืนสิทธิจีเอสพีได้ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ส่งสินค้าดังกล่าวไปตลาดสหรัฐฯ ยื่นคำร้องเพื่อขอคงสิทธิให้สินค้าไทยภายในกำหนด โดยคำร้องที่ยื่นให้สหรัฐฯ นั้น ต้องแสดงถึงความสูญเสียของไทย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ หากสินค้าไทยไม่ได้รับการคงหรือคืนสิทธิให้กับประเทศไทย”
ที่มา : dailynews.co.th