การนำ ERP มาใช้ให้เหมาะสมกับธุรกิจ
โพสต์แล้ว: ศุกร์ 02 พ.ย. 2012 2:02 pm
ซอฟต์แวร์ระบบ ERP มีมากมายหลากขนาด หลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับกระบวนการทำงานขององค์กรต่างๆ การจัดประเภทของระบบ ERP จำแนกได้หลายวิธี ในที่นี้เราจะพิจารณามุมมองขององค์กรบริษัทที่จะนำระบบ ERP มาใช้งาน ซึ่งแบ่งได้ 4 ประเภทหลัก
ซอฟต์แวร์ระบบ ERP ที่เป็นแพคเกจ (Software Package) - ไม่สามารถปรับเปลี่ยน แก้ไขระบบได้ สามารถรองรับการทำงานขององค์กรที่มีอยู่เดิมได้ จำเป็นต้องปรับวิธีการทำงานบางส่วนหรือหลายส่วน เพื่อให้ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางระบบจะทำได้รวดเร็วมาก ไม่ซับซ้อน
ซอฟต์แวร์ระบบ ERP ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้สามารถปรับแต่ง แก้ไขได้ตามกระบวนการทำงานขององค์กร (Customizable) - องค์กรสามารถ Setup หรือ ตั้งค่า Configuration ปรับเปลี่ยน แก้ไขได้ เพื่อรองรับการทำงานที่องค์กรมีอยู่เดิมได้มาก แต่อาจจะไม่ทั้งหมด เพราะมีข้อจำกัดทางเทคนิค ระยะเวลาในการวางระบบ ติดตั้งระบบ จะใช้เวลานาน ซับซ้อน ต้องมีผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาช่วยในการวางระบบ
ซอฟท์แวร์ ERP ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับแต่ง แก้ไข แต่จำเป็นต้องถูกปรับแก้โปรแกรม - เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจซอฟต์แวร์ที่รุนแรง ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ยอมเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของซอฟต์แวร์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ระยะเวลาในการปรับแก้ซอฟต์แวร์ วางระบบ และติดตั้ง ต้องใช้เวลานาน แต่จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการปรับแก้โปรแกรม จึงต้องมีนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Software analyst & designer) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Programmer) และผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษา (Consultant) ช่วยในการวางระบบ ค่าใช้จ่ายจึงค่อนข้างสูง ความเสี่ยงในด้านการดูแลรักษาระบบ เป็นสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด เนื่องจากซอฟต์แวร์ถูกเปลี่ยนโครงสร้าง มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ ผู้ดูแลระบบควรขอเอกสารทางเทคนิคจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ไว้ใช้ในการอ้างอิงและช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
ซอฟท์แวร์ ERP ที่ถูกออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะสำหรับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง - เพื่อให้ซอฟต์แวร์รองรับการทำงานได้มากที่สุด ระยะเวลาในการออกแบบ การวางระบบ การติดตั้งระบบ ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมีนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Software analyst & designer) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Programmer) และผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษา (Consultant) ช่วยวางระบบ จีงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ความเสี่ยงที่การพัฒนาซอฟต์แวร์จะล้มเหลว เป็นสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด เนื่องจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่เป็นงานใหญ่ มีรายละเอียดมาก มีความซับซ้อน องค์กรหรือบริษัทผู้ว่าจ้างผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้จริงๆ
ที่มา : igarment.igetweb.com
ซอฟต์แวร์ระบบ ERP ที่เป็นแพคเกจ (Software Package) - ไม่สามารถปรับเปลี่ยน แก้ไขระบบได้ สามารถรองรับการทำงานขององค์กรที่มีอยู่เดิมได้ จำเป็นต้องปรับวิธีการทำงานบางส่วนหรือหลายส่วน เพื่อให้ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางระบบจะทำได้รวดเร็วมาก ไม่ซับซ้อน
ซอฟต์แวร์ระบบ ERP ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้สามารถปรับแต่ง แก้ไขได้ตามกระบวนการทำงานขององค์กร (Customizable) - องค์กรสามารถ Setup หรือ ตั้งค่า Configuration ปรับเปลี่ยน แก้ไขได้ เพื่อรองรับการทำงานที่องค์กรมีอยู่เดิมได้มาก แต่อาจจะไม่ทั้งหมด เพราะมีข้อจำกัดทางเทคนิค ระยะเวลาในการวางระบบ ติดตั้งระบบ จะใช้เวลานาน ซับซ้อน ต้องมีผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาช่วยในการวางระบบ
ซอฟท์แวร์ ERP ที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับแต่ง แก้ไข แต่จำเป็นต้องถูกปรับแก้โปรแกรม - เนื่องจากการแข่งขันทางธุรกิจซอฟต์แวร์ที่รุนแรง ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จำเป็นต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ยอมเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของซอฟต์แวร์เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ระยะเวลาในการปรับแก้ซอฟต์แวร์ วางระบบ และติดตั้ง ต้องใช้เวลานาน แต่จะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการปรับแก้โปรแกรม จึงต้องมีนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Software analyst & designer) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Programmer) และผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษา (Consultant) ช่วยในการวางระบบ ค่าใช้จ่ายจึงค่อนข้างสูง ความเสี่ยงในด้านการดูแลรักษาระบบ เป็นสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด เนื่องจากซอฟต์แวร์ถูกเปลี่ยนโครงสร้าง มีโอกาสที่จะผิดพลาดได้ ผู้ดูแลระบบควรขอเอกสารทางเทคนิคจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ไว้ใช้ในการอ้างอิงและช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดได้ง่ายขึ้น
ซอฟท์แวร์ ERP ที่ถูกออกแบบและพัฒนาใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะสำหรับองค์กรใดองค์กรหนึ่ง - เพื่อให้ซอฟต์แวร์รองรับการทำงานได้มากที่สุด ระยะเวลาในการออกแบบ การวางระบบ การติดตั้งระบบ ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องมีนักวิเคราะห์และออกแบบระบบ (Software analyst & designer) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Programmer) และผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษา (Consultant) ช่วยวางระบบ จีงมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ความเสี่ยงที่การพัฒนาซอฟต์แวร์จะล้มเหลว เป็นสิ่งที่ต้องระวังมากที่สุด เนื่องจากการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่เป็นงานใหญ่ มีรายละเอียดมาก มีความซับซ้อน องค์กรหรือบริษัทผู้ว่าจ้างผู้พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ต้องเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้จริงๆ
ที่มา : igarment.igetweb.com