[center]
นุ่น เล่าถึง ร้าน FRESH BOXX ว่า ที่มาของร้าน เกิดขึ้นมาจากตัวเองได้ร่วมกับเพื่อน เปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมา เพราะต้องการนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนด้านงานออกแบบมาใช้กับการทำงานบ้าง เพราะตั้งแต่เรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ยังไม่เคยได้ใช้ความรู้ที่เรียนมาเลย และที่มาเป็นร้านอาหาร เนื่องมาจากเพื่อนสนิท (สาวิตรี น้อยพจนา) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนชอบทำอาหาร และได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ เห็นคอนเซ็ปต์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพเป็นร้านสลัดในต่างประเทศน่าสนใจ และเมื่อตัดสินใจว่าน่าจะทำร้านสลัด เพื่อนก็ได้ไปเรียนการทำอาหารเพิ่มเติมในต่างประเทศ ก่อนจะนำมาเปิดร้านแห่งนี้
โดยรูปแบบของร้าน "FRESH BOXX Salad Cafe" การนำตู้คอนเทนเนอร์มาทำเป็นร้านสีสันฉูดฉาดสะดุดตา อยู่ริมถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา (ติดกับหมู่บ้านมัณฑนา) ซึ่งใช้ตู้คอนเทรนเนอร์ติดแอร์ จำนวน 4 ตู้ และตกแต่งภายในในสไตล์การออกแบบที่เน้นเรียบหรู ไม่เหมือนใคร แต่ภายนอกเน้นสีสันฉูดฉาด เพื่อเป็นจุดสนใจให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมา ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะคนที่ผ่านไปมา ต่างให้ความสนใจกับรูปแบบของร้านก่อนที่จะตัดสินใจเข้ามากินอาหารและเป็นลูกค้าประจำ
[center]
นุ่นบอกกับเราว่า เธอทำร้านนี้ แบบพอดีๆ พอเพียง มีแค่ 6 โต๊ะ มีเคาน์เตอร์บาร์อีกแค่ 6 ที่ ไม่ได้เยอะมาก ถ้าในร้านนั่งได้ประมาณ 30 กว่าคน หลังจากเปิดให้บริการมาได้ประมาณ 6 เดือน ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้เรามีโครงการที่จะเปิดพื้นที่ส่วนภายนอกเป็นพื้นที่นั่งกินอาหารด้วย ซึ่งคงต้องรอหลังจากที่ผ่านฤดูฝนไปแล้ว เพราะร้านเปิดให้บริการช่วงตอนเย็นและค่ำอยู่แล้ว ลูกค้าบางกลุ่ม ชื่นชอบที่จะนั่งชมบรรยากาศสบายๆ ภายนอกร้าน และทำให้เราได้ขยายพื้นที่การรองรับลูกค้าออกไปด้วย
สำหรับในส่วนของอาหาร เมนูหลักของร้านจะเป็นสลัดผัก และพาสต้า จุดขายสลัดผักของร้าน FRESH BOXX อยู่ที่การมีน้ำสลัดให้เลือกถึง 6 อย่าง เพื่อรองรับความชอบของลูกค้าที่ชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบเผ็ดมาก เผ็ดน้อย ชอบหวานมาก หวานน้อย เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่า ไม่มีร้านไหนที่ลูกค้าสามารถเลือกน้ำสลัดได้มากเท่านี้ ในขณะที่ผักที่นำมาขายในร้าน จะเลือกผักปลอดสารพิษ ซึ่งรับมาจากฟาร์มผู้ผลิตอีกที่หนึ่ง และบางส่วนเป็นผักจากโครงการหลวง ซึ่งลูกค้าชื่นชอบผักประเภทไหนก็สามารถสั่งและเลือกผักอย่างที่ตัวเองชอบได้ จุดเด่นของร้านอยู่ที่ลูกเล่นที่เราเป็น DIY ด้านอาหาร และ เป็นงานโฮมเมด และในปลายปีนี้ จะมีเมนูใหม่เพิ่มขึ้นมา นั่นคือ พิซซ่าโฮมเมด ซึ่งสูตรพิซซ่า ยังคงเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเช่นกัน
ส่วนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้าน ในช่วงแรกวางกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มนักศึกษา และกังวลว่าจะมีลูกค้าแต่กลุ่มนักศึกษา เพราะร้านเปิดให้บริการอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล แต่พอเปิดมาได้ระยะหนึ่ง ก็ได้ลูกค้ากลุ่มที่มาเป็นครอบครัวมากขึ้น จากการแวะมาชิม และมาเป็นลูกค้าประจำกัน ในขณะที่กลุ่มนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเราก็เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเช่นกัน เพราะปัจจุบันกลุ่มนักศึกษาหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากพยายามตั้งราคาให้ไม่แพงมาก เพื่อให้ลูกค้ากลุ่มนักศึกษาสามารถเข้าไปรับประทานได้ อย่างสลัดราคาเริ่มต้น 69 บาท พาสต้ามีราคาตั้งแต่ 130 บาท สูงสุด 200 บาท
ในส่วนของการเติบโต นุ่นมองในเรื่องของการพัฒนาของร้านมากกว่า ไม่ได้มองเรื่องของยอดขาย ซึ่งมองว่าร้านเราเติบโต เพราะมีเมนูใหม่เพิ่มขึ้นมา อย่าง พิซซ่าโฮมเมด การเพิ่มพื้นที่การให้บริการที่เตรียมพื้นที่ด้านนอกไว้บริการลูกค้าเพิ่ม ส่วนโอกาสคืนทุนตอนนี้ ยังไม่คิด เพราะขอแค่ร้าน มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนืองก็พอ จริงๆ แล้วการทำร้านอาหารไม่ใช่เป้าหมายหลักของนุ่น แต่เป็นเรื่องการแต่งร้านต่างหาก คือนุ่นชอบทำงานดีไซน์ อยากจะทำงานแต่งบ้าน อยากจะทำงานโปรดักต์ แต่ว่าร้านนี่ก็เป็นของเราเอง คือตอนนี้เรายังไม่ได้มีลูกค้า ลูกค้าคือตัวเรา ตอบโจทย์ว่าอยากได้ร้านแบบนี้ๆ ทาร์เก็ตลูกค้าเป็นแบบนี้"
"สำหรับปัญหาอุปสรรคของการทำงานที่ผ่านมา คือ ตัวเองตั้งใจจะทำร้านเล็กเหมือนเปิดบ้านให้เพื่อนมาหา และมาทำอะไรกินกันเล็กๆ แต่ก็ดีใจที่มีคนเข้ามามากขึ้น หลังจากเราได้ออกสื่อไป และก็อาศัยว่าเราเป็นนักแสดง คนก็เลยอยากเข้ามาใช้บริการ ตรงจุดนี้เอง ทำให้การทำอาหารของเราล่าช้าไปบ้างในช่วงแรก เพราะเราก็คิดว่าทำกันเองไม่กี่คน และด้วยความที่เราเป็นแบบโฮมเมด ก็เลยช้า ทำให้ลูกค้าต้องรอนาน แต่ตอนนี้เราก็สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้แล้ว ลูกค้าก็ไม่ต้องรอนานเหมือนในอดีต"
ที่มา : manager.co.th