สิงห์ เตรียมต่อสัญญาสโมสรฟุตบอลระดับโลกตอกย้ำการสร้างแบรนด์สิงห์สู่ระดับโลก
โพสต์แล้ว: จันทร์ 26 พ.ย. 2012 10:20 am
นายฉัตรชัย วิรัตน์โยสินทร์ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนต่อสัญญาเป็นพันธมิตรกับสโมสรฟุตบอลระดับโลก พรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษอีก 2 แห่งคือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เดิมจะสิ้นสุดสัญญาในปี 2556 และเชลซี ในฐานะพันธมิตรระดับโลก (โกลบอล พาร์ตเนอร์) ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2557 ออกไปอีก 1 ปี จากเมื่อปี 2553 ที่บริษัทร่วมเซ็นสัญญากับทั้ง 2 สโมสรเป็นเวลา 3 ปี และ 4 ปี ตามลำดับ
"ปีหน้า บริษัทยืนยันว่าจะนำทีมแมนยูฯและเชลซีมาแข่งขันฟุตบอลในไทยช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งใช้งบรวม 200 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำการสร้างแบรนด์สิงห์สู่แบรนด์ระดับโลก รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยด้วย" นายฉัตรชัยกล่าว
นายฉัตรชัยกล่าวถึงแผนการทำตลาดในปี 2556 ว่า บริษัทยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ 2 หลัก คือ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในปีนี้กับการทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางทั้งตลาดในไทยและตลาดโลก ส่วนตลาดเบียร์ในไทยเดือนพฤศจิกายน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวมทุกแบรนด์ คือ สิงห์ และลีโอ อยู่ที่ 70% และสิ้นปีนี้จะน่าจะเพิ่มเป็น 72% จากที่ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดทั้งปีไว้ 67%
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ปีหน้าได้วางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดเบียร์รวมของบริษัทไว้ที่่ 75% ส่วนภาพรวมของตลาดเบียร์ในปีนี้ มีอัตราเติบโตเพียง 2-3% และคาดว่าในปีหน้าจะเติบโตในระดับ 2% เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมายที่บังคับในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ตลาดเติบโตน้อยมาก
ที่มา : matichon.co.th
"ปีหน้า บริษัทยืนยันว่าจะนำทีมแมนยูฯและเชลซีมาแข่งขันฟุตบอลในไทยช่วงเดือนกรกฎาคม ซึ่งใช้งบรวม 200 ล้านบาท เพื่อตอกย้ำการสร้างแบรนด์สิงห์สู่แบรนด์ระดับโลก รวมทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยด้วย" นายฉัตรชัยกล่าว
นายฉัตรชัยกล่าวถึงแผนการทำตลาดในปี 2556 ว่า บริษัทยังให้ความสำคัญกับการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ 2 หลัก คือ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง และมิวสิค มาร์เก็ตติ้ง หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จอย่างมากในปีนี้กับการทำตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักกว้างขวางทั้งตลาดในไทยและตลาดโลก ส่วนตลาดเบียร์ในไทยเดือนพฤศจิกายน บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดรวมทุกแบรนด์ คือ สิงห์ และลีโอ อยู่ที่ 70% และสิ้นปีนี้จะน่าจะเพิ่มเป็น 72% จากที่ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดทั้งปีไว้ 67%
นายฉัตรชัยกล่าวว่า ปีหน้าได้วางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดเบียร์รวมของบริษัทไว้ที่่ 75% ส่วนภาพรวมของตลาดเบียร์ในปีนี้ มีอัตราเติบโตเพียง 2-3% และคาดว่าในปีหน้าจะเติบโตในระดับ 2% เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมายที่บังคับในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ตลาดเติบโตน้อยมาก
ที่มา : matichon.co.th