ยักษ์ลอจิสติกส์ ดีเอชแอลฯ มองไทย"ฮับ"ขนส่งกระจายสินค้าในอาเซียน ลงทุนกว่า1.9พันล้านบาท ผุดคลังสินค้ายานยนต์
นายพอล เกรแฮม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประตำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดีเอชแอล ซัพพลายเชน เปิดเผยว่าในฐานะที่ดีเอชแอลฯ เป็นแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งและกระจายสินค้า(ลอจิสติกส์)ระดับโลก มองว่าในปัจจุบันไทย ถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในด้านทำเลต่อการเป็นศูนย์กลาง(ฮับ)ด้านลอจิสติกส์ ทุกด้านทั้งการขนส่งทางเรือ อากาศ และบก ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน)
ทั้งนี้ สอดคล้องกับแผนธุรกิจดีเอชแอลฯ ในไทย ที่เตรียมใช้งบลงทุนเบื้องต้นกว่า50 ล้านยูโร หรือราว 1,960 ล้านบาท พัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ อาทิ การเพิ่มจำนวนยานพาหนะเพื่อขนส่งสินค้า เพิ่มสถานประกอบการ นำเสนอเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ พร้อมสนับสนุนโปรแกรมการอบรมเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านต่างๆ และเพิ่มการจ้างงานอีกกว่า 2,000 อัตราในอนาคต
นายเควิน เบอร์เรล กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทดีเอชแอล ซัพพลายเชน กล่าวว่าในปีหน้าบริษัทวางแผนเปิดตัว ศูนย์กลางการจัดการสินค้าด้านยานยนต์แห่งที่ 2 ที่ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อรองรับการดำเนินการงานด้านยานยนต์โดยเฉพาะชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจหลักของดีเอชแอล ที่คาดว่าอุตฯยานยนต์ในไทยจะขยายการเติบโตสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจไทยในภาพรวมฟื้นตัวจากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ในปีก่อน
พร้อมกันนี้ ยังเห็นแนวโน้มอัตราการขยายตัวของตลาดของผู้ผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ต่างๆ ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดเป็น 1 ใน10ประเทศ ที่มีการผลิตสินค้าด้านยานยนต์มากที่สุดในโลก รวมถึงรองรับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดการค้ารถยนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย จากโครงการ “รถยนต์คันแรก” ตามนโยบายของภาครัฐ จากปัจจุบันดีเอชแอลฯ มีศูนย์กลางสินค้าด้านยานยนต์1แห่งในจ.ระยอง
ขณะเดียวกันในปีหน้า บริษัทยังวางแผนเปิดตัวศูนย์จัดเก็บและกระจายสินค้า(แวร์เฮาส์)แห่งใหม่ย่านบางนา เพื่อเข้ามารองรับการขยายตัวในธุรกิจด้านการจัดส่งสินค้ากลุ่มค้าปลีก อาทิ สินค้าแฟชัน และสินค้าอุปโภคบริโภคในไทย ที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นอีกมาก รวมถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของกลุ่มลูกค้าหลักกว่า 50 รายของดีเอชแอลฯ จากปัจจุบันมี 67 โกดังสินค้ากระจายทั่วประเทศ มีจำนวนพื้นที่ 4.5ล้านตร.ฟุต
อย่างไรก็ตาม จากการที่บริษัทได้ลูกค้ารายใหม่ในไทย คือ บริษัทเป็ปซี่-โคล่า(ไทย) เทรดดิ้ง มาเป็นคู่ค้าการขนส่งและกระจายสินค้าล่าสุดนั้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางพันธมิตรระดับโลกที่จะเข้ามาสนับสนุนด้านผลดำเนินการรายได้บริษัทในสัดส่วนที่ไม่มากนัก จากปัจจุบันบริษัทให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าต่างๆ ดังนี้ กลุ่มค้าปลีกและแฟชัน, กลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ มีผลการรายงานล่าสุดของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยังระบุตลาดค้าปลีกจะมีความคึกคักมากขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวถึง12% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ และส่งผลดีกับธุรกิจบริการด้านการขนส่งและกระจายสินค้า จากปีที่ผ่านมาดีเอชแอลฯ ประเทศไทย มีอัตราการเติบโตรายได้30% สูงกว่าจีดีพีประเทศ ซึ่งมาจากปัจจัยหลัก คือ การขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ที่มา : posttoday.com

- บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
- สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
- ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
- ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
- ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
- ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้
บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย
DHL มองไทยมีศักยภาพสูงด้านทำเลต่อการเป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ ทั้งทางเรือ อากาศ บก
ผู้ใช้งานขณะนี้
กำลังดูบอร์ดนี้: 35 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน