บอร์ดบินไทยสั่งทำแผนยุทธศาสตร์ เน้นทำการบินในเส้นทางระยะไกล บริการระดับพรีเมียม

[Yamachita]

บอร์ดบินไทยสั่งทำแผนยุทธศาสตร์ 3 สายการบินให้ชัดเจน ชงบอร์ด 14 ธ.ค.55 เล็งปรับแผนเพิ่มรายได้ ตั้งเป้าปี 56 รายได้โต 11-12% สั่งศึกษาตั้งบริษัทลูกไทยสมายล์ เพื่อบริหารงานได้คล่อง รายได้ในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้น

นายสรจักร เกษมสุวรรณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. การบินไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยมีมติเห็นชอบการวางตำแหน่งยุทธศาสตร์ของการบินไทย โดยให้เน้นทำการบินในเส้นทางระยะไกล ให้บริการระดับพรีเมียมอย่างเต็มรูปแบบ และมีฐานการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนไทยสมายล์เน้นบินในเส้นทางระยะสั้น ตั้งเป้าหมายเป็นสายการบินภูมิภาคชั้นนำของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน พร้อมทั้งให้จัดตั้งเป็นบริษัทย่อยขึ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ด้านสายการบินนกแอร์เป็นสายการบินต้นทุนต่ำในภูมิภาค ใช้ฐานการบินที่ท่าอากาศยานดอนเมือง

นอกจากนี้ บอร์ดยังเห็นชอบให้การบินไทยเพิ่มทุนสายการบินนกแอร์ ด้วยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้นกแอร์มีเงินทุนเพียงพอในการจัดหาเครื่องบิน ขยายเส้นทางบิน และสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้

นอกจากนี้ ยังมียุทธศาสตร์ที่ต้องการให้ฝ่ายบริหารไปพัฒนาหน่วยธุรกิจต่างๆ เพื่อหารายได้ เช่น ครัวการบิน การบริการภาคพื้นเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น การปรับปรุงธุรกิจขนส่งสินค้า หรือคาร์โก้ ให้มีศักยภาพ และการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะการดูแลต้นทุนน้ำมัน ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงขึ้น เพื่อดูแลต้นทุนในส่วนนี้ พร้อมทั้งสั่งศึกษาแนวทางในการแยกสายการบินไทยสมายล์ จากหน่วยธุรกิจ เป็นบริษัทลูก เพื่อให้การบริหารเกิดความคล่องตัว

นายสรจักรกล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ปรับตัวดีขึ้น คาดว่าจะทำกำไรสุทธิปีนี้ประมาณ 3 พันล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเกิดผลขาดทุน และยอดจองตั๋วในเดือน พ.ย.-ธ.ค.55 อยู่ระดับที่ดีมาก แม้ว่า ต.ค.55 อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ย 73.5% ต่ำกว่าเป้าที่ 74-75% แต่สูงกว่า ต.ค.54 อยู่ที่ 65.7% และรายได้ในไตรมาส 2 ต่ำกว่าเป้าหมาย 3.4 พันล้านบาท ทำให้รายได้ทั้งปี 55 ไม่ได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 2.02 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 56 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 11-12% จากปีนี้ มาที่ 2.23-2.24 แสนล้านบาท จากจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นประมาณ 8% จากที่บริษัทจะรับมอบเครื่องบินใหม่ 17 ลำ จากปีนี้รับมอบเครื่องบินใหม่ 3-4 ลำ รวมทั้งเพิ่มรายได้จากหน่วยธุรกิจ ทั้งจากธุรกิจครัวการบินและคาร์โก้ รวมทั้งบริษัท ไปลงทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย ทั้งนี้คาดว่ารายได้จากธุรกิจคาร์โก้จะเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท และมีกำไรขึ้นมาบ้างจากปีนี้จะได้ 2.4-2.5 หมื่นล้านบาท ในขณะเดียวกันตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มการขายผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นสัดส่วน 15% จากการขายทั้งหมด โดยปัจจุบันถือว่าการบินไทยยังมีการขายผ่านอินเทอร์เน็ตน้อยมาก

“ส่วนการดูแลต้นทุนน้ำมันซึ่งปัจจุบันสูงถึง 40% ของต้นทุนรวม และในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาราคาน้ำมันอากาศยานสูงแตะถึง 127 เหรียญ/บาร์เรล ดังนั้นคณะกรรมการบริษัทจึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการดูแลและบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่มี นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการบอร์ด เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ และนายคณิน แสงสุพรรณ เป็นรองประธานคณะกรรมการ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญน้ำมันจากภายนอก 2 คน และผู้บริหารเพื่อประชุมให้ทันสถานการณ์น้ำมัน และจะได้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมันเพื่อบริหารดูแลให้ดีขึ้น เพราะต้นทุนน้ำมันถือเป็นต้นทุนที่สำคัญ โดยปัจจุบันบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงไว้แล้ว 50%” นายสรจักร กล่าว.


ที่มา : thaipost.net