Log in with LINE
[center]
[/center]นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าแผนงานในปี 2556 จะเน้นการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ภายใต้คอนเซปต์ “MCOT Dynamic” สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมบรอดแคสต์ที่จะก้าวสู่โทรทัศน์ระบบดิจิทัล
พร้อมกันนี้จะปรับผังรายการช่อง 9 ใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.นี้ เน้นการผลิตเองเพิ่มขึ้นเป็น 51% จากปัจจุบัน 47% ซึ่งจะเน้นคอนเทนท์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชม
(Infinity Inspired) โดยจะนำเสนอรายการประเภทเอ็ดดูเทนเมนท์เป็นหลัก จากสัดส่วน 29% เพิ่มเป็น 37% นอกจากนี้จะเน้นรายการข่าวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและนักลงทุน
นอกจากนี้จะจัดตั้ง “สำนักงานบริหารสินทรัพย์” เพื่อดูแลสินทรัพย์ด้านอสังหาริมทรัพย์ และที่ดินที่มีอยู่ทั่วประเทศของ อสมท โดยแปลงหลักในกรุงเทพฯและปริมณฑล มีจำนวน 3 แปลง ได้แก่ ถนนพระราม 9 ขนาด 50 ไร่ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับแผนพัฒนาที่ดิน, หนองแขม จำนวน 10 ไร่ ซึ่งจะได้รับคืนจากช่อง 3 เมื่อจบสัมปทาน และบางไผ่ จำนวน 58 ไร่ ปัจจุบันเป็นสถานีวิทยุเอเอ็ม 2 คลื่น ซึ่งในอนาคตอาจมีการพัฒนาโดยร่วมกับหน่วยงานรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ เช่น การเคหะแห่งชาติ ในการทำกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ยังมีที่ดินในต่างจังหวัดทั่วประเทศที่ได้รับการเวนคืน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจ เพื่อจัดทำแผนพัฒนาต่อไป
พร้อมกันนี้จะเพิ่มความร่วมมือในกลุ่มเอ็มคอทกรุ๊ป เพื่อดำเนินธุรกิจร่วมกันยุคดิจิทัล ได้แก่ ช่อง 3 ทรูวิชั่นส์ และอสมท ขณะที่ธุรกิจกลุ่มทีวีดาวเทียม ซึ่งปัจจุบันยังเป็นการให้เช่าช่องทรานสปอนเดอร์ โดยดำเนินการเอง 2 ช่อง ได้แก่ MCOT1 และ MCOT world นั้น จะมีการรีแบรนด์ช่อง MCOT world อีกครั้งในปีหน้าเป็นช่อง Sawasdee Thailand
ด้านนายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานวิศวกรรม บมจ.อสมท เปิดเผยว่าแผนการลงทุนทีวีดิจิทัลนั้น อสมทจะยื่นขอใบอนุญาตในทุกประเภท ทั้งประเภทโครงข่าย, สิ่งอำนวยความสะดวก และช่องรายการ ซึ่งประเภทโครงข่าย และสิ่งอำนวยความสะดวก จะต้องอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรหลายฝ่ายทั้งบรอดแคสต์และโทรคมนาคม เช่น ทีโอที ไทยพีบีเอส กรมประชาสัมพันธ์
สำหรับประเภทช่องรายการ ตั้งเป้าว่าจะยื่นขอใบอนุญาต 5 ช่อง ได้แก่ ช่องเอชดี 1 ช่อง, ช่องธุรกิจ 3 ช่อง ได้แก่ ประเภทช่องทั่วไป, ช่องข่าว, เด็กและครอบครัว รวมทั้งช่องสาธารณะ เพื่อสอดคล้องกับจุดประสงค์ของการก่อตั้ง อสมท ซึ่งช่องสาธารณะนี้จะเป็นช่องที่รับผลิตให้แก่หน่วยงานรัฐต่างๆ ที่ไม่มีศักยภาพในการผลิต แต่ต้องการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
นายเจษฎา พรหมจาต หัวหน้าเจ้าที่สายการเงิน บมจ.อสมท กล่าวว่าจากแผนการเปลี่ยนสู่ระบบดิจิทัล คาดว่าจะต้องลงทุนเพิ่มอีก 5,300 ล้านบาท ในช่วง 15 ปีข้างหน้า โดยเป็นการลงทุนช่องรายการ 2,500 บาท และโครงข่าย 2,800 ล้านบาท ซึ่งอสมท มีความพร้อมด้านการลงทุนปัจจุบันมีกระแสเงินสด 5,000 ล้านบาท และยังได้เจรจากับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทย เพื่อกู้เงินลงทุนเพิ่มเติม
นายเอนก กล่าวว่าสำหรับรายได้ 3 ไตรมาสที่ผ่านมาเติบโต 13% เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดว่าถึงสิ้นปีนี้รายได้จะเติบโตราว 10% และปีหน้าเติบโต 15% โดยในวันที่ 27 พ.ย.นี้ จะเปิดตัวผังรายการใหม่ปี56 พร้อมปรับขึ้นราคาโฆษณาใหม่
ด้านแหล่งข่าวใน อสมท กล่าวว่าสำหรับตำแหน่งประธานบอร์ด อสมท ซึ่งได้ว่างลงหลังจากนายสรจักร เกษมสุวรรณ ไปดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทยนั้น คาดว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งคนต่อไปได้แก่ นายสุธรรม แสงประทุม สมาชิกบ้านเลขที่ 111
ที่มา : bangkokbiznews.com
