[center]
ธรรมรัตน์ เหล่านุญชัย และยุวนา เทพชาตรี สองสามีภรรยา เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์เปาะเปี๊ยะทอด Reena's Papa Roll โดยชื่อรานมาจากชื่อลูกสาวที่น่ารัก ซึ่งทั้งคู่ย้อนที่มาธุรกิจนี้ว่า ธรรมรัตน์เรียนจบมาทางด้านการทำอาหาร และเคยทำงานเป็นเชฟในร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกาอยู่หลายปี ตัดสินใจเดินทางกลับเมืองไทย แต่ยังไม่ทิ้งความชอบในการทำอาหาร ซึ่งเปาะเปี๊ยะทอดก็เป็นหนึ่งในเมนูที่ตนเองถนัด และทำให้ครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายรับประทานอยู่เป็นประจำ เพราะความที่ไส้เปาะเปี๊ยะไม่ซ้ำใครแต่เข้ากันอย่างลงตัว เช่น ไส้ผักโขมชีส ชีสโรล กะหรี่ไก่ และเจโรล (ผัก-วุ้นเส้น)
จนกระทั่งฝีมือและรสชาติเริ่มเป็นที่รู้จักแบบปากต่อปาก กลายเป็นเครื่องการันตีในผลิตภัณฑ์ ตัดสินใจนำเปาะเปี๊ยะแบบกึ่งสำเร็จรูปนำเสนอร้านอาหารและภัตตาคารนำไปทอดให้ลูกค้าจนสินค้าติดตลาด จึงเปิดร้านของตนเองเป็นรถเข็นเล็กๆ ที่ตลาดครูหวี (ข้างธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ ถ.พระราม 3) ด้วย ใช้ชื่อร้านว่า Reena's Papa Roll
[center]
“เมื่อเราลองเปิดร้านของตัวเอง และมีชื่อร้านก็รู้สึกว่าสามารถเติบโตในธุรกิจนี้ได้ จึงคิดขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ จากกระบวนการผลิตที่ไม่ยุ่งยาก ขายง่าย แถมรสชาติดี โดยเฉพาะไส้ที่ไม่ซ้ำใคร น่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจที่สร้างอาชีพให้ผู้สนใจได้”
ระยะเพียง 3 เดือนที่แฟรนไชส์เปาะเปี๊ยะทอด Reena's Papa Roll ออกสู่ตลาดถือว่าได้รับการตอบรับดี จากเงินลงทุนที่ไม่สูงเกินไปนักเพียง 24,999 บาท (ไม่มีค่าแฟรนไชส์ Fee) พร้อมอุปกรณ์ครบชุดพร้อมขาย แถมเปาะเปี๊ยะฟรี 200 ตัว รวม 4 ไส้ ได้แก่ ผักโขมชีส ชีสโรล กะหรี่ไก่ และเจโรล ระยะเวลาคืนทุนประมาณ 1-2 เดือน ในขณะที่การเปิดร้านขายก็ไม่ยุ่งยาก เพราะทางร้านจะส่งเปาะเปี๊ยะชนิดแป้งดิบให้นำไปทอดเองประมาณ 10 นาทีก็เหลืองสุกพร้อมรับประทาน ซึ่งเปาะเปี๊ยะของ Reena's Papa Roll จะไม่มีน้ำจิ้ม เนื่องจากไส้เปาะเปี๊ยะมีรสชาติที่ลงตัวแล้ว
[center]
“ที่ผ่านมามีคนสนใจในเรื่องแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก แต่บางครั้งก็ติดปัญหาเรื่องตำรวจเทศกิจบ้าง ซึ่งเราก็แนะนำทำเลให้สำหรับบางราย โดยพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดคือ แหล่งออฟฟิศ โรงเรียน มหาวิทยาลัย แหล่งชุมชน และตลาดนัด ผู้ที่สนใจส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำแต่ต้องการมีรายได้เสริม ใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ทอดเปาะเปี๊ยะขาย ส่วนร้านอาหารก็สนใจเช่นกัน หวังเป็นเมนูเสริมในร้าน หรือของกินเล่นระหว่างรออาหาร”
สำหรับในเรื่องราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 8 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยไส้ชีสโรลเป็นเมนูยอดฮิตที่ลูกค้าไม่ควรพลาด เพราะยุวนาแอบกระซิบว่าทางร้านใช้ชีสเกรดเอ รับประกันความเหนียว นุ่ม หอม มันแน่นอน ส่วนไส้อื่นๆ ก็ขายดีไม่แพ้กัน เพราะใส่ใจในคุณภาพวัตถุดิบที่ต้องได้มาตรฐาน เน้นความสะอาดปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ต่างจากการทำรับประทานเองที่บ้าน
สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตทั้งคู่ไม่ต้องการขยายสาขามากนักด้วยเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมคุณภาพได้ แต่ต้องการให้คนที่สนใจจริงๆ นำไปขายทำกำไร และสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้ ส่วนในเรื่องการเพิ่มไส้เปาะเปี๊ยะอื่นๆ จะอาศัยคำแนะนำมาจากลูกค้าเป็นหลักว่าต้องการไส้ชนิดไหน แต่ที่กำลังจะทำออกมาคือไส้เผือกที่ลูกค้าคุ้นเคยเป็นอย่างดี
หากสินค้าสามารถขายตัวมันเองได้อย่างเปาะเปี๊ยะ Reena's Papa Roll ก็ทำให้ธุรกิจไปได้ไกล ไม่ว่าจะในแง่ของการเป็นผู้ผลิตเต็มตัว สร้างแบรนด์เอง หรือแม้กระทั่งแฟรนไชส์ ก็สร้างความมั่นคงในธุรกิจได้ไม่น้อย
ที่มา : manager.co.th