
กลุ่มทุนสิงคโปร์ "เรียล เอสเตต แคปิตอล เอเชีย พาร์ตเนอร์" (รีแคป RECAP) ผู้บริหารกองทุนประเภทไพรเวตฟันด์ในประเทศสิงคโปร์ เตรียมลุยซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์และศูนย์การค้าในเมืองไทยต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาธุรกิจที่พักอาศัย, โรงแรม, อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้า ด้วยยุทธศาสตร์เน้นการลงทุนพัฒนาและเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการเดิมที่ชะลอการลงทุน หรือหยุดก่อสร้างเนื่องจากขาดสภาพคล่องเป็นหลัก
โดยล่าสุดเตรียมที่จะเปิดตัวโครงการศูนย์การค้า "เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์" สำหรับเปิดเป็นไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่ใจกลางถนนชิดลม ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมากลุ่มทุนรีแคปได้ซื้ออาคารเมอร์คิวรี่ ชิดลม มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสูง 25 ชั้น บริเวณต้นซอยหลังสวน ชิดลม อาคารเมอร์คิวรี่เดิมเป็นสินทรัพย์ของเลห์แมน บราเธอร์ส แต่บริษัทได้เข้าสู่ภาวะล้มละลายเมื่อปี 2551 รีแคปเข้าเจรจาซื้อสำเร็จเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และเข้ามาสานต่อการปรับปรุงอาคาร คาดว่าจะเปิดบริการส่วนศูนย์การค้าได้ปลายเดือน มี.ค. 2556 โดยวางแผนดึงสินค้าแฟชั่นแบรนด์ต่างประเทศ ร้านอาหาร และบริการต่าง ๆ เข้ามาเสริม และเตรียมเจรจากับบีทีเอสทำทางเชื่อมตรงจากสถานีรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกกับลูกค้า
ปัจจุบันโครงการทั้งหมดของรีแคปในเมืองไทยมี 4 โครงการ ได้แก่ ศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต, โครงการ M Soceity เมืองทองธานี, โครงการคอนโดมิเนียม Millennium Resident สุขุมวิท 20 และโครงการ Mille Malle คอมมิวนิตี้มอลล์ สุขุมวิท 20
นายสุชาติ เจียรานุสสติ ประธานบริหาร โครงการ เดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ ภายใต้การบริหารของรีแคป ประเทศสิงคโปร์ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการว่า หลังลงทุนซื้ออาคารเมอร์คิวรี่ อาคารสำนักงาน สูง 25 ชั้น บนเนื้อที่รวมกว่า 60,000 ตร.ม. โดยภายในอาคารประกอบด้วยส่วนของพื้นที่รีเทลให้เช่ารวม 7,200 ตร.ม. จำนวน 4 ชั้น กว่า 30 ร้านค้า และส่วนของพื้นที่อาคารสำนักงานให้เช่า 18,700 ตร.ม. จำนวน 19 ชั้น และพื้นที่จอดรถชั้นใต้ดินอีก 6 ชั้น สามารถจอดรถได้กว่า 500 คัน
ทั้งนี้ บริษัททุ่มงบฯกว่า 300 ล้านบาท เพื่อรีโนเวตในส่วนของพื้นที่รีเทลใหม่ทั้งหมดให้มีความทันสมัย สามารถตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ภายใต้ชื่อ "The Mercury Ville @ Chidlom" ซึ่งนอกจากโปรเจ็กต์ดังกล่าวจะมีความโดดเด่นด้านทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองแล้ว ยังเป็นอาคารแห่งเดียวบนถนนสุขุมวิทที่ลูกค้าสามารถเดินเข้าสู่ชั้น 3 ของตัวอาคารได้อย่างรวดเร็วและใกล้มากที่สุด เนื่องจากเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลม นอกจากนี้ยังเน้น
ร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังจากทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทยเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้า และสร้างความแตกต่างและหลากหลายเหนือคู่แข่งในย่านนี้ รวมทั้งหมด 30 ร้านค้า
เช่นเดียวกับการตกแต่งภายนอกถูกออกแบบให้ทันสมัย โดดเด่นด้วยความร้อนแรงของสี ลายเส้น ด้วยบรรยากาศแห่งความสุข อบอุ่น โดยแต่ละชั้นภายในอาคารจะถูกออกแบบและตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ "Cozy & Friendly" เสมือนได้พักผ่อนในวันสบาย ๆ กับเพื่อนสนิท คนพิเศษ และครอบครัว โดยแบ่งเป็นโซน Gourmet & Caf? ส่งตรงสินค้าจากแหล่งผลิตทั่วมุมโลก, Casual Dining รวมร้านอาหารไทย นานาชาติ ชาบู หรือปิ้งย่าง, Lifestyle Restaurant และ Bar & Bistro สำหรับปาร์ตี้บนดาดฟ้า เปิดมุมมอง 360 องศาของ Rooftop Bar & Bistro สุดฮิปแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
สำหรับโครงการเมอร์คิวรี่ วิลล์ คาดว่า จะสามารถเปิดให้บริการในไตรมาสแรกของปี 2556 ซึ่งปัจจุบันปิดการขายไปได้แล้วกว่าร้อยละ 50 ด้วยระยะเวลาเพียง 3 เดือน โดยรวบรวมร้านค้าและร้านอาหารแบรนด์ดังมากมาย อาทิ ร้านซูเปอร์มาร์เก็ต กูร์เมต์มาร์เก็ต, สตาร์บัคส์ และจูสเซ่น บาย มิยาบิ เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบประมาณด้านการตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาทในช่วงปีแรก โดยกลุ่มเป้าหมายเป็น กลุ่มคนทำงาน 50%, กลุ่มผู้ที่อยู่อาศัยในย่านสุขุมวิท 40% และกลุ่มนักท่องเที่ยว 10% ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าคุณภาพและมีกำลังซื้อสูง และคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 30,000 หมื่นคนต่อวัน
ที่มา : prachachat.net