รูปภาพแจ้งข่าว ทางเว็บบอร์ด openerpthailand.org ได้เปลี่ยนระบบเว็บบอร์ด ใหม่เป็น phpBB 3.1
  1. บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
  2. สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
  3. ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
  4. ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
  5. ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
  6. ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้

บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย

เอกชนค้านการขึ้นค่าเช่าอุทยาน จี้จัดระบบเก็บรายได้โปร่งใส

รวมข่าวสารเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางด้านธุรกิจที่สำคัญๆ แบ่งปันกันได้ที่หมวดนี้
Yamachita
โพสต์: 448
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 31 ต.ค. 2012 8:20 pm

เอกชนค้านการขึ้นค่าเช่าอุทยาน จี้จัดระบบเก็บรายได้โปร่งใส

โพสต์โดย Yamachita » ศุกร์ 02 พ.ย. 2012 12:17 pm

เอกชนค้าขึ้นค่าเช่าอุทยาน.jpg

อุทยานแห่งชาติ เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติอันสมบูรณ์ของประเทศ และอีกมุมหนึ่งยังเป็นจุดหมายท่องเที่ยวสำคัญของคนไทยและต่างชาติด้วย จากสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการอุทยานปีงบประมาณ 54 พบว่า มีนักท่องเที่ยว 9.49 ล้านคน เป็นคนไทย 8.3 ล้านคน ต่างชาติ 1.18 ล้านคน สร้างรายได้รวม 494.5 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการจัดเก็บค่าบริการ 402.96 ล้านบาท

ไม่นานมานี้ จะมีการขึ้นค่าบริการเข้าอุทยานที่ได้รับความนิยมสูง โดยวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ออกประกาศ กำหนดอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ 29 แห่ง คนไทย ที่เป็นผู้ใหญ่เสียค่าเข้าอุทยาน 100 บาท และเด็ก 50 บาท จากเดิมผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 300 บาท จากเดิม ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท มีผล 1 ต.ค. 55 จากนั้นไม่นานเอกชนก็เรียกร้องให้เลื่อนเวลาขึ้นค่าเข้าอุทยานไป 1 ปี เพื่อปรับตัว เพราะได้ตกลงราคาแพ็กเกจท่องเที่ยวที่บวกค่าเข้าอุทยานอัตราเดิมไปแล้วล่วงหน้า และวันที่ 14 ก.ย. กรมอุทยานฯ จึงมีหนังสืออีกฉบับออกมาว่า จะผ่อนผันคิดค่าบริการใหม่ ให้มีผล 1 ม.ค. 56

แม้กรมอุทยานฯ เลื่อนเวลาขึ้นค่าบริการไปอีก 3 เดือน แต่หมายความว่าในไม่ช้าคนไทยที่อยากไปเที่ยวอุทยานต้องควักกระเป๋าจ่ายแพงขึ้นแน่นอน จึงเป็นไปได้ว่า นักท่องเที่ยวบางคนที่เคยคิดเที่ยวอุทยาน อาจเปลี่ยนใจไปเที่ยวที่อื่น หรือจากเดิมคิดไปเที่ยว ก็เปลี่ยนใจไม่เที่ยวเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมกระทบบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศแน่นอน แม้แต่ “ธวัชชัย อรัญญิก” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยังยอมรับว่า คงกระทบยอดคนไทยเที่ยวไทยในช่วงแรกที่ปรับขึ้นค่าบริการ เพราะคนไทยมีเวลาทำใจกับการขึ้นค่าบริการไม่นาน ประกอบกับสถานการณ์ข้าวของในบ้านเราช่วงนี้แพงขึ้น การขึ้นค่าเข้าอุทยานช่วงนี้จึงไม่เหมาะสมนัก หากเป็นไปได้อยากให้กรมอุทยานฯ ทบทวนการขึ้นค่าเข้าอุทยาน โดยเลื่อนเวลาไปอีก และควรแจงรายละเอียดการขึ้นค่าบริการให้ประชาชนทราบชัดเจนว่า

ขณะที่ “ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช” นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) แสดงความเห็นว่า การขึ้นค่าอุทยานกระทบกับกลุ่มแรงงานรายได้น้อยแน่นอน เพราะลดโอกาสของคนเหล่านี้ในการเข้าไปเที่ยวอุทยาน อีกทั้งกระทบเอกชนโดยตรง เพราะปกติเอกชนทำสัญญาขายแพ็กเกจท่องเที่ยวล่วงหน้า 6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งราคาแพ็กเกจจะเหมารวมค่าเข้าอุทยานแล้ว การเลื่อนขึ้นค่าบริการโดยให้เวลาปรับตัวเพียง 3 เดือน คงไม่พอกับเอกชน

แต่อีกสิ่งที่เอกชนต้องการมากกว่าคือ อยากให้อุทยานปรับปรุงระบบการจัดเก็บรายได้ นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารายได้รั่วไหล ทำให้อุทยานได้รับรายได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เช่น ใช้ระบบเซ็นเซอร์นับจำนวนผู้เดินทางเข้าอุทยาน แบ่งช่องทางคนไทยและต่างชาติให้ชัดเจน จะทำให้อุทยานได้ตัวเลขผู้ใช้บริการที่แท้จริง มั่นใจได้ว่าไม่มีปัญหานำบัตรผ่านเข้าอุทยานใบเดิมมาเวียนเทียนใช้ใหม่ ได้รับค่าเข้าอุทยานครบถ้วน

นอกจากนี้หากขึ้นค่าบริการจริง ๆ ต้องพัฒนาระบบสาธารณูป โภคในอุทยานให้ได้มาตรฐานสากลให้สอดคล้องกับเงินที่ผู้ใช้บริการต้องจ่ายมากขึ้น เช่น ห้องน้ำได้มาตรฐาน มีระบบดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ระบบกู้ภัย และปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ด้าน “เจริญ วังอนานนท์” โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (เฟตต้า) ให้ความเห็นว่า อยากให้กรมอุทยานฯ ทบทวนการขึ้นค่าเข้าอุทยานว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ ควรชี้แจงสาธารณชนให้ได้ว่า ปรับขึ้นราคาเพราะอะไร หากปรับขึ้นจะช่วยอุทยานอย่างไร คำนวณอัตราการปรับขึ้นจากอะไร เพราะราคาใหม่สูงขึ้นถึง 150% ไม่แน่ใจว่าพยากรณ์รวมเงินเฟ้อล่วงหน้าไปกี่ปี

กรณีการขึ้นค่าเข้าอุทยานฯ น่าจะเป็นตัวอย่างการทำงานของภาครัฐที่ขาดการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง ที่รัฐบาลควรใส่ใจ หากต้องการผลักดันรายได้ท่องเที่ยวให้ไปถึง 2 ล้านล้านบาทในปี 58 อย่างที่หวังไว้ ควรสร้างความเข้มแข็งในการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานให้เห็นก่อน เช่นกรณีนี้ หากกรมอุทยานฯ หารือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง แสดงเหตุผลการขึ้นค่าบริการที่ชัดเจน และคำนวณอัตราค่าบริการใหม่ที่เหมาะสม ไม่ก้าวกระโดดจนน่าตกใจ ทำความเข้าใจกับเอกชนซึ่งเป็นผู้ดึงคนเข้าไปเที่ยวแต่เนิ่น ๆ ให้มีเวลาเตรียมตัว คงไม่มีเสียงคัดค้านขึ้นค่าบริการหนาหูขนาดนี้

เหนือสิ่งอื่นใด หากจัดวางระบบเก็บรายได้มีมาตรฐานสากล บริการภายในอุทยานได้มาตรฐาน รู้จักประสานงานกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการปลูกจิตสำนึกให้คนที่มาเที่ยวช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานคงมีความสำคัญสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศมากกว่านี้.


ที่มา : classifiedthai.com
คุณไม่มีสิทธิ์ดูไฟล์ที่แนบมาในกระทู้

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 101 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน