รูปภาพแจ้งข่าว ทางเว็บบอร์ด openerpthailand.org ได้เปลี่ยนระบบเว็บบอร์ด ใหม่เป็น phpBB 3.1
  1. บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
  2. สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
  3. ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
  4. ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
  5. ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
  6. ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้

บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย

AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ เป้าหมายเปิดเสรีในสาขาเร่งรัด

รวมข่าวสารเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางด้านธุรกิจที่สำคัญๆ แบ่งปันกันได้ที่หมวดนี้
Yamachita
โพสต์: 448
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 31 ต.ค. 2012 8:20 pm

AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ เป้าหมายเปิดเสรีในสาขาเร่งรัด

โพสต์โดย Yamachita » จันทร์ 07 ม.ค. 2013 10:14 am

[center]รูปภาพ[/center]

การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีผลต่อการปฏิรูปสาขาบริการในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การเปิดเสรีภาคบริการตาม “พิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” หรือ AEC Blueprint ยังมีข้อจำกัดหลายประการที่ทำให้โอกาสที่จะมีการค้าและการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนในปี พ.ศ. 2558และในระยะสั้น เป็นไปได้น้อยมาก

งานวิจัย “AEC กับการปฏิรูปสาขาบริการ” โดย ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ คุณวีรวัลย์ ไพบูลย์จิตต์อารีและคณะ วิเคราะห์ว่า กรอบการเจรจา AEC เป็นเพียง Roadmap มิได้เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย เป้าหมายการเปิดเสรียังมิได้เป็นการเปิดเสรีแบบ EU เพราะยังมีการยกเว้นในเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานและกฎกติกาภายในประเทศที่ยังเป็นอุปสรรคใหญ่ ได้แก่ ข้อผูกพันการเปิดตลาดค้าบริการชุดที่ 7 มุ่งเน้นแต่การเปิดเสรีในสาขาเร่งรัดเป็นหลัก และประเทศไทยเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนได้แค่ไม่เกิน 49% ในทุกสาขาบริการเท่านั้น

มายาคติ - “ในปี 2558 ผู้ประกอบการอาเซียนจะสามารถเข้ามาแข่งขันได้อย่างเสรีกับผู้ประกอบการไทยในทุกสาขาบริการ”

ข้อเท็จจริง
• กรอบการเปิดเสรีภาคบริการภายใต้ AEC มิได้เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย หากแต่เป็นเพียง “Roadmap” เพื่อให้การเจรจาในการเปิดเสรีภาคบริการในอาเซียนมีทิศทางและเป้าหมายที่ชัดเจนต่างจากการเจรจาในอดีต
• การเปิดเสรีภายใต้ AEC Roadmap มิใช่การเปิดเสรีที่สมบูรณ์แบบเหมือนสหภาพยุโรป (EU)
• ในบรรดาชาติอาเซียนทั้งหมด มีเพียงสิงคโปร์เท่านั้นที่สามารถบรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีภาคบริการได้ ส่วนข้อเสนอของไทยสะท้อนให้เห็นนโยบายที่ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การสร้างฐานการผลิตอาเซียนร่วมกัน
• ความเป็นไปได้ที่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเปิดเสรีภาคบริการได้ตาม Roadmap ในปี พ.ศ. 2558 จึงมีน้อยมาก

สาขาบริการที่ไทยได้ให้ข้อผูกพันที่จะให้นักลงทุนอาเซียนถือหุ้นได้ร้อยละ 70 ตามเป้าหมายของ AEC Blueprint มีเพียงไม่กี่สาขาย่อย (โทรคมนาคม โลจิสติกส์ สุขภาพและท่องเที่ยว) และสาขาย่อยที่ผูกพันส่วนมากไม่มีนัยสำคัญเชิงเศรษฐกิจของประเทศมากนัก

ทั้งนี้ ข้อผูกพันชุดที่ 8 ยังขาดการปรับปรุงกฎกติกาภายในประเทศไทยให้เอื้อต่อการเปิดเสรีอย่างเป็นธรรม
จากการศึกษา พบว่า ข้อเสนอดังกล่าวยังห่างไกลจากเป้าหมายที่กำหนดไว้ใน AEC และสะท้อนเจตนารมณ์ที่จะไม่เปิดเสรีภาคบริการอย่างแท้จริง
สาขาบริการ พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2553 พ.ศ. 2556 พ.ศ. 2558
สาขาเร่งรัด (สุขภาพ ท่องเที่ยว ขนส่งทางอากาศ และ E-ASEAN) 51% 70% 70% 70%
โลจิสติกส์ 49% 51% 70% 70%
บริการอื่น ๆ 49% 51% 70% 70%


โอกาสของ AEC
• ขนาด - ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่มีประชากรทั้งหมดกว่า 608 ล้านคนและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก โดยมีมูลค่าจีดีพีรวมกว่า 3,334 พันล้านเหรียญสหรัฐ
• แหล่งเงินทุน - ในปี 2554 ร้อยละ 7.54 ของเงินลงทุนทางตรง (FDI) ของโลกมุ่งสู่อาเซียน เทียบกับ ร้อยละ 2.03 ในปี 2545 แต่การกระจายตัวของเงินทุนกระจุกอยู่ที่สิงคโปร์ที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) เพียง 9.08% แต่มีส่วนแบ่งเงินทุนถึง 42.80%
• สิงคโปร์จึงเปรียบเหมือน “ประตูสู่อาเซียน” - เนื่องจากเป็นประเทศที่บริษัทข้ามชาติเลือกที่จะเข้ามาจัดตั้งธุรกิจเพื่อที่จะบริหารจัดการการลงทุนในภูมิภาค
• โอกาสของไทย - ภาคบริการของไทยปิดกั้นเงินลงทุนจากต่างประเทศเนื่องจากนโยบายและกฎหมายที่จำกัด ทำให้ไทยเสียโอกาสในการได้รับการลงทุนและการถ่ายทอดเทคโนโลยีในภาคบริการ ทั้งที่ไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวมถึง 19.4% แต่ได้รับส่วนแบ่ง FDI เพียง 13.83% เท่านั้น
• การขาดแคลนเงินลงทุน ทำให้ภาคบริการของไทยขาดเงินลงทุนที่จำเป็นในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อที่จะตักตวงผลประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าบริการในอาเซียน


ไทยจะยกระดับประสิทธิภาพแรงงานอย่างไร?

1) เปิดรับทุนและเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

• เปิดเสรีภาคบริการที่สนับสนุนภาคธุรกิจอื่น (intermediate services) - การคุ้มครองภาคบริการภายในประเทศโดยกีดกันการแข่งขันจากต่างประเทศ เป็นการสร้างภาระต้นทุนให้แก่ธุรกิจอื่น ๆ อย่างไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะธุรกิจที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง ตัวอย่างเช่นการขนส่งสินค้าทางบก สถาบันการเงิน การประกันภัย ที่ผลิตบริการที่มีลักษณะเป็นบริการขั้นกลางที่ป้อนให้แก่ภาคธุรกิจอื่น
• เปิดเสรีภาคบริการที่มีลักษณะผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด - โดยมีผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดไม่กี่ราย เช่นโทรคมนาคม โครงข่ายส่งไฟฟ้าแรงสูง ท่อก๊าซ ซึ่งการกีดกันการลงทุนจากต่างประเทศทำให้เกิดความเสี่ยงของการผูกขาดตลาด ทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าบริการที่สูงเกินควร

2) ปฎิรูปกฎและกติกาในการกำกับดูแล

โทรคมนาคม
• ยกเลิกประกาศเกี่ยวการครอบงำกิจการของคนต่างด้าวที่กีดกันต่างชาติ
• มีกติกาให้ผู้ประกอบการรายใหม่และรายย่อย สามารถเชื่อมต่อหรือเช่าใช้โครงข่ายโทรคมนาคมได้อย่างเป็นธรรม

พลังงาน
• มีกติกาให้ผู้ประกอบการทุกรายสามารถเช่าใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายท่อก๊าซของ ปตท. และสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ที่เป็นธรรม

การเงิน
• ยกเลิกการกำกับดูแลค่าธรรมเนียมสำหรับบริการที่มีการแข่งขัน
• กำกับดูแลระบบการชำระเงินที่ผูกขาด
• ยกเลิกข้อจำกัดสาขาบริการของธนาคารต่างชาติ


ที่มา : dailynews.co.th

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 40 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน