"นวัตกรรม"ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการคิดของใหม่แต่สามารถต่อยอดจากนวัตกรรมสุดคูลที่มีอยู่ในท้องตลาดได้ กลายเป็นนวัตกรรมยกกำลังสองแต้มต่อธุรกิจ
“โคลัมบัส ออร์แกนิค ไรซ์แบรน ออย บอดี้ บัตเตอร์” ครีมบำรุงผิวกายจากน้ำมันรำข้าวและบัตเตอร์จากข้าว ที่เพิ่งคว้ารางวัล นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ข้าวไทย ประจำปี 2555 จากมูลนิธิข้าวไทยฯ และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เป็นผลงานของ บริษัท สยามเนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางขวัญใจแรงงาน แบรนด์ “เนเจอร์ริช” , “สุพัตรา”,“สโนว์เกิร์ล” และ “เอ็มไนน์”
พวกเขาไม่ได้คิดของใหม่ แต่ใช้วิธีต่อยอดจากนวัตกรรมเดิม ที่มีคนคิดไว้ก่อนแล้ว คือการทำ Shortening จากน้ำมันรำข้าว ซึ่งเคยได้รับรางวัล นวัตกรรมปี 2553 ซึ่งเป็นการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อย่าง พวกเบเกอรี่ต่างๆ
ทว่าพวกเขากลับมองต่าง นำมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ
“เราเลยได้นวัตกรรมใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม เป็นนวัตกรรมซ้อนนวัตกรรม” ธนธรรศ สนธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด เจ้าของไอเดียนวัตกรรมต่อยอดนวัตกรรมบอกกับเรา
เมื่อนวัตกรรมซ้อนนวัตกรรม เลยได้ในสิ่งที่เหนือกว่า “ของธรรมดา” และสามารถขยับโอกาสในการขายได้มากขึ้น เขาบอกว่า การแข่งขันที่รุนแรงในยุคนี้ ผู้ประกอบการต้องคิดให้มากขึ้น นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเลือกนำนวัตกรรมซึ่งถูกพิสูจน์มาแล้วและได้รางวัลการันตี มาพัฒนาต่อยอดเพื่อนำไปสู่นวัตกรรมตัวที่สอง ซึ่งเจ๋งและเหนือกว่า
ที่สำคัญไม่ต้องเริ่มจากนับ 1
นวัตกรรมยกกำลังสอง เลยจัดเต็มสรรพคุณในการดูแลผิวพรรณให้กับผู้ใช้ ชนิดที่ครบถ้วนตรงใจพลพรรคคนรักผิว ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์จากข้าวออร์แกนิค ก็กำลังอยู่ในกระแสนิยม สำคัญไปกว่านั้น คือ ลดการใช้วัตถุดิบนำเข้า ซึ่งราคาสูงกว่าถึง 6-10 เท่า ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง เพิ่มแต้มต่อในการแข่งขัน ทั้งยังใช้วัตถุดิบจากข้าวในประเทศ จึงช่วยส่งเสริมเกษตรกรไทยอีกทาง
สารพัดจุดแข็ง ที่พวกเขาเชื่อว่าจะสร้างโอกาสได้อีกมหาศาล หลัง “โคลัมบัส” แบรนด์น้องใหม่ออกสู่ตลาด
“โคลัมบัส เป็นแบรนด์ที่เราเตรียมเข้าไปเจาะตลาดใหม่ คือ แบรนด์พรีเมี่ยม และเตรียมบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์” เขาบอก
จากสินค้าที่มุ่งเจาะกลุ่มแรงงาน คนกระเป๋าเบา ขายผ่าน ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีอยู่เกือบ 7,000 สาขาทั่วประเทศ และใน 7-Catalog ราคาขายตั้งแต่หลักสิบไปจนร้อยต้นๆ มายกระดับเป็นแบรนด์พรีเมี่ยม ในคอนเซ็ปต์ที่เป็นสากลมากขึ้น
“โคลัมบัส คือคอนเซ็ปต์ของการค้นพบ การเปิดโลกทัศน์ใหม่ การค้นพบดินแดนใหม่ ซึ่งเราตั้งใจให้เป็นคอนเซ็ปต์ระดับโลก” เขาบอก พร้อมชี้ให้เห็นถึงแผนที่จะโกอินเตอร์ด้วยแบรนด์ใหม่ หลังหลายปีที่ผ่านมาทำหน้าที่รับจ้างผลิตเครื่องสำอางให้กับแบรนด์ในรัสเซียและอเมริกามาแล้ว
และนี่จะเป็นโอกาสใหม่ที่เกิดจากมุมคิดด้าน “นวัตกรรม” ซึ่งผู้ประกอบการหลายราย อาจไม่สนใจเพราะมองเป็นต้นทุน ต้องเสียทั้งเงิน ทั้งเวลา ไปกับการพัฒนาของใหม่ แต่สำหรับเขา นี่คือแต้มต่อเดียวที่จะทำให้ต่อสู้กับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้
“นวัตกรรมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแข่งขัน ถ้าเราไม่มีนวัตกรรม เราก็จะเสียเปรียบและด้อยกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะกับรายใหญ่ มีเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยให้เราต่อสู้กับบริษัทขนาดใหญ่ได้ นั่นคือ นวัตกรรม”
เขาสะท้อนความสำคัญของอาวุธที่ชื่อ “นวัตกรรม” ที่จะเข้ามาลดความอ่อนแอด้านเงินทุน และศักยภาพในการผลิต อาวุธทรงอานุภาพ ที่ไม่ว่าใครก็มาแย่งไปไม่ได้
นอกจากเพื่อต่อสู้ในสนามแข่ง เขายังบอกว่า นี่เป็นการปิดจุดอ่อนของธุรกิจกึ่งแฟชั่นอย่างเครื่องสำอาง
“เครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่แข่งขันกันสูงและเป็นธุรกิจกึ่งแฟชั่น คือออกสินค้าเป็นฤดูกาล อย่างหน้าร้อนต้องมีตัวไหนออกมา หน้าหนาวต้องตัวไหน เหมือนสินค้าแฟชั่น ที่คำนึงถึงซีซันเป็นหลัก และเมื่อไรก็ตามที่สินค้าอายุประมาณ 1-2 ปี ความนิยมจะเริ่มลดลง เราจึงต้องแพลนของใหม่ๆ ออกมาตลอด”
นั่นคือเหตุผลที่พวกเขามีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาทุกๆ 1 เดือน !
“ทุกเดือนต้องมีสินค้าใหม่ ทาง R&D เตรียมผลิตภัณฑ์ไว้เดือนละ 3-4 ตัวด้วยซ้ำ แต่เก็บไว้รอดูจังหวะ ช่วงไหนวัตถุดิบตัวไหนมาแรง ก็จะร้อยตาม ไม่หนีกระแส ต้องเกาะกระแสให้ทัน”
ขยันคิด ขยันพัฒนา จึงเป็นที่มาของ รางวัลการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่มากถึง 11 รางวัล ในเวลา 4 ปี รางวัลการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร จากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติถึง 2 รางวัล ในปี 2548 เพียงปีเดียว และล่าสุดกับรางวัลนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ข้าวไทยในปี 2555
จุดแข็งสำคัญของพวกเขา คือ “ไม่ทำงานคนเดียว” แต่เลือกทำงานใกล้ชิดกับทั้ง สถาบันการศึกษา หน่วยงานพัฒนาผู้ประกอบการ แม้แต่เซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายหลัก ก็เลือกทำงานร่วมกัน พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง
บวกการที่ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญทั้งการผลิตและการตลาด (เรียนมาทางด้านคอสเมติกส์และกำลังต่อปริญญาเอกด้านการสร้างแบรนด์) สองขาซึ่งล้วนเป็นหัวใจของธุรกิจเครื่องสำอาง เลยเดินขนาบข้างไปด้วยกันอย่างราบรื่น
“ผมโชคดีที่ได้ทั้งการตลาด และนวัตกรรม แต่ยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปทีละนิด ผมเชื่อในกลยุทธ์ ใช้ไม้ขีดก้านเดียว ให้ไหม้ไปทั่วป่า คือ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ใช้ต้นทุนเพียงเล็กน้อย แต่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”
เขาบอกวิธีคิดการทำธุรกิจ ประสาผู้ประกอบการพันธุ์เล็ก ที่ต้องต่อกรกับแบรนด์ใหญ่ โดยยกตัวอย่าง การเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ ที่เขาบอกว่า จำเป็นมาก และเป็นทางตีเสมอแบรนด์ใหญ่ได้ คือทำให้อยู่ในระดับเดียวกัน ที่สำคัญมีมุมคิดสุดต่าง คือไม่ได้เริ่มจากมีผลิตภัณฑ์แล้วไปหาพรีเซ็นเตอร์มาขายให้ แต่เริ่มจากมองหาพรีเซ็นเตอร์ หาตัวแทนคนที่ลูกค้าอยากเป็น อยากเหมือน แล้วมาพัฒนาสินค้าให้เหมาะกับคนๆ นั้น
“เราต้องการเป็นเครื่องสำอางที่มีเสน่ห์ ไม่ต้องการสินค้าแบบธรรมดาทั่วไป จึงต้องเพิ่มเสน่ห์ขึ้นไปเรื่อยๆ ฉะนั้นเวลาเราทำสินค้า เราจะเลือกพรีเซ็นเตอร์ก่อน เพราะนั่นคือภาพลักษณ์ของสิ่งที่ลูกค้าอยากเป็น จากนั้นก็พัฒนาผลิตภัณฑ์ตามบุคลิกของเขา เพื่อให้ดูกลมกลืน และไม่ให้รู้สึกว่าถูกยัดเยียด ซึ่งเมื่อไรก็ตามที่พรีเซนเตอร์คนนี้ไปปรากฎอยู่ที่ไหน สินค้าของเราก็จะเหมือนติดตัวเขาไปด้วย”
นั่นคือเหตุผลที่เลือกใช้พรีเซ็นเตอร์ที่หลากหลาย ขึ้นกับความสนใจของลูกค้าแต่ละกลุ่ม และกระแสนิยม ณ ขณะนั้น
“ทำธุรกิจทุกวันนี้ยากครับ เราต้องคิดให้เยอะให้หนักขึ้น การซื้อสินค้าของลูกค้าเขาคาดหวังมากกว่าสิ่งที่ควรจะได้รับ มองจากตัวเราก็ได้ เวลาเราซื้อของราคา 10 บาท เราก็ยังหวังอยากได้มากกว่า 10 บาท จึงต้องมองลูกค้าแบบนี้ โดยเราอย่าไปเกี่ยงว่าสินค้าที่เขาซื้อไปราคาแค่ 10 บาท แต่จะต้องให้เขามากกว่านั้น ทุกอย่างต้องมากขึ้น”
สารพัดวิธีคิดและกลเกมธุรกิจ ของคนที่พัฒนาตัวเองมาจากสินค้าโอทอป จนกลายเป็นเอสเอ็มอีที่แข็งแกร่ง จากการขยันคิด ขยันปรับตัวเองให้พร้อมรับการแข่งขัน จนมียอดขายรวมกว่า 80 ล้านบาทต่อปี ในวันนี้
ที่มา : bangkokbiznews.com

- บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
- สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
- ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
- ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
- ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
- ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้
บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย
โคลัมบัส แบรนด์ที่เตรียมเจาะตลาดใหม่ แบรนด์พรีเมียมบุกตลาดต่างประเทศ อยู่ระหว่าง
ผู้ใช้งานขณะนี้
กำลังดูบอร์ดนี้: 47 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน