รูปภาพแจ้งข่าว ทางเว็บบอร์ด openerpthailand.org ได้เปลี่ยนระบบเว็บบอร์ด ใหม่เป็น phpBB 3.1
  1. บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
  2. สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
  3. ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
  4. ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
  5. ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
  6. ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้

บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย

เสริมสุข ลุยตลาดน้ำอัดลมทุกเซ็กเมนท์เปิดตัวน้ำสีเดือนหน้า ผลตอบรับ เอส เกินคาด

รวมข่าวสารเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางด้านธุรกิจที่สำคัญๆ แบ่งปันกันได้ที่หมวดนี้
Yamachita
โพสต์: 448
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 31 ต.ค. 2012 8:20 pm

เสริมสุข ลุยตลาดน้ำอัดลมทุกเซ็กเมนท์เปิดตัวน้ำสีเดือนหน้า ผลตอบรับ เอส เกินคาด

โพสต์โดย Yamachita » ศุกร์ 23 พ.ย. 2012 10:14 am

เสริมสุข พร้อมลุยตลาดน้ำอัดลมครบทุกเซ็กเมนท์ ลั่นเปิดตัวน้ำสีเดือนหน้า เผยผลตอบรับ เอส โคล่า เกินคาด ระบุผลวิจัยพบลูกค้า "ซื้อซ้ำ"

[center]รูปภาพ[/center]

น้ำอัดลมน้องใหม่ “เอส โคล่า” จากค่าย “เสริมสุข” ใต้ร่มเงาไทยเบฟ เปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของเสริมสุข หลังสิ้นสุดสัญญาผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เป๊ปซี่ มาเกือบ 6 ทศวรรษ จากการเป็นผู้สร้างแบรนด์ให้เป็นผู้นำตลาด มาสู่การเป็นผู้ปั้นแบรนด์ของตัวเอง

นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม เอส (est) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "กรุงเทพธุรกิจทีวี" โดยระบุว่า การเปิดตัวเอสเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยพบว่าช่วง 5 วันแรก มียอดขายมากกว่า 1 ล้านลัง นอกจากนี้ได้สำรวจผู้บริโภคพบว่าการตอบรับ เอส เป็นไปตามผลวิจัยก่อนการเปิดตัว โดยเฉพาะเรื่องรสชาติที่ลูกค้าชื่นชอบ และที่สำคัญคือพบว่ามีการซื้อซ้ำ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ทำให้มั่นใจต่อเป้าหมายทางธุรกิจในการผลักดันเอสก้าวเป็นผู้นำตลาดน้ำดำให้ได้ภายใน 3 ปี โดยมีขวดแก้วเป็น โปรดักท์ แชมเปี้ยน สอดคล้องไปกับสภาพตลาดน้ำอัดลมประเทศไทย ที่ขวดแก้วเป็นฐานหลักเกินกว่า 60% ของตลาดรวม และลูกค้ามีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

"เรื่องใหญ่ที่จะต้องทำในช่วงแรกนี้ ก็คือ ทำอย่างไรให้คนทดลองดื่ม หลังจากนั้นจึงไปทำในด้านโปรโมชั่น ส่วนแผนการบุกต่างประเทศเป็นลำดับต่อไป เพราะว่าการเปิดตลาดนอกบ้านจำเป็นที่จะต้องทำให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งเสียก่อน และความแข็งแกร่งของแบรนด์จะเป็นเครื่องมือต่อสู้และป้อมปราการสำหรับรับมือคู่แข่งทั้งรายเก่าและหน้าใหม่ ดังนั้นทรัพยากรทุกอย่างจะทุ่มเทในด้านนี้เป็นหลัก"

นายฐิติวุฒิ์ กล่าวว่า เดือนหน้า เสริมสุข จะบุกตลาดน้ำอัดลมเต็มรูปแบบ โดยเตรียมเปิดตัวน้ำอัดลมประเภทน้ำสีครบทุกเซ็กเมนท์ในตลาด โดยใช้ชื่อ "เอส" เช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีสินค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น จะทำให้สามารถสร้างการรับรู้ และสามารถขยายฐานลูกค้าได้ง่ายขึ้น"

เดิมพัน 1,200 ล้านบาท สร้างแบรนด์
เสริมสุข ได้ประกาศแนวทางและเป้าหมายชัดเจนต่อการสร้าง เอส ให้ติดตลาดโดยเร็วที่สุดก่อนก้าวสู่ “แบรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล” เพื่อขยายตลาดต่างประเทศภายใต้กลยุทธ์ แบรนด์เดียว (Single Brand Strategy) ในการเปิดตลาดน้ำอัดลมทุกกลุ่มทั้งน้ำดำ น้ำสี และ น้ำขาว เพื่อสร้าง เอส ให้ติดตลาดอย่างแข็งแกร่งในเวลาอันสั้น

“ประสบการณ์ 59 ปี ของ เสริมสุข ในธุรกิจน้ำอัดลมจะถูกถ่ายทอดออกมาเป็น เอส ที่โดดเด่นผ่าน 5 ปรากฏการณ์สุดขั้ว อะไรที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไป เราใช้เวลา 8 เดือนสร้าง เอส เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับบริษัท” ผู้บริหารกล่าวไว้ในวันแรกที่ส่ง เอส ลงตลาด

ในช่วง 14 เดือน (พ.ย.2555-ธ.ค.2556) เอส จัดสรรงบกว่า 1,200 ล้านบาท ทำการตลาดเชิงรุก 360 องศา เฉพาะ 2 เดือนแรก 300 ล้านบาท และ อีก 900 ล้านบาท ในปีหน้า รับมือการแข่งขันจากเดิมมีเพียง 2 แบรนด์หลัก ขยับเป็น 4 แบรนด์

การจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด ต้องทำอะไรที่ตรงกับใจผู้บริโภคและตอบโจทย์ได้ดี ฉะนั้นปีแรกของการรุกตลาดต้องพิเศษกว่าปกติทั้งงบประมาณและเกมการแข่งขัน เพื่อแจ้งเกิดให้เร็วที่สุด

เสริมสุข คาดการณ์ว่าดีกรีการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจน้ำอัดลมปีหน้า จะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จาก 4 แบรนด์ในการช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดย เอส ตั้งเป้าหมายมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 25% หรือมียอดขาย 8,000 ล้านบาทในปีแรก เป็นอันดับ 2 ในตลาดน้ำดำ และก้าวเป็นผู้นำตลาดภายใน 3 ปี

5 กลยุทธ์หลัก-ขวดแก้วโปรดักท์แชมเปี้ยน
สำหรับกลยุทธ์สร้าง เอส โคล่า เน้น 5 ปรากฏการณ์สุดขั้ว ประกอบด้วย สุดขั้วที่ 1 แบรนด์ต้องโดนสุดขั้ว เริ่มตั้งแต่สร้างชื่อให้จำง่าย โดย เอส-est สื่อถึงความเป็นที่สุด เมื่อ est ตามหลังคำใด หมายถึงความเป็นที่สุด

สุดขั้วที่ 2 รสชาติถูกปากคนไทย ซึ่ง เอส ได้ถูกพัฒนารสชาติให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จากประสบการณ์และการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค พบว่า 77% ชื่นชอบในรสชาติของน้ำอัดลมเอสและจะซื้อดื่มแน่นอน

“การวิจัยผู้บริโภคยังพบว่า 60% พร้อมจะเปลี่ยนแบรนด์สินค้า หรือ Switching Brand นับเป็นโอกาสทางการตลาดที่จะผลักดันแบรนด์เอสก้าวสู่ผู้นำตลาด”

สุดขั้วที่ 3 ขนาดหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์ โดย เสริมสุข ได้วางจำหน่ายน้ำอัดลมเอส ในบรรจุภัณฑ์รวม 7 ขนาด ได้แก่ ขวดแก้ว 12 ออนซ์ ราคา 8 บาท ขนาดสำหรับดื่มคนเดียวในช่องทางร้านอาหาร ขวดพีอีที 1 ลิตร ราคา 20 บาท คูลแฮนด์ 250 มล. ราคา 10 ซื้อง่ายไม่ต้องทอน ไม่ต้องคืนขวด ขวดพีอีที 455 มล. 12 บาท เหมาะพกพา ขวดพีอีที 480 มล. 15 บาท จำหน่ายเฉพาะในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น กระป๋อง 325 มล. ราคา 14 บาท และตู้กด Post Mix โดยในจำนวนนี้มี 2 บรรจุภัณฑ์ใหม่เป็นครั้งแรกในตลาดและเป็นเอกลักษณ์ของเสริมสุข คื อขวดแก้ว 12 ออนซ์ และ ขวดพีอีที 1 ลิตร

สุดขั้วที่ 4 งานโฆษณาที่นำ 3 ไอดอลแม่เหล็กวัยรุ่น “บี้-โตโน่-ไมค์” ที่สะท้อนดีเอ็นเอของแบรนด์“เอส” โดย บี้-สุกฤษฎิ์ สื่อถึงความเท่สุดขั้ว โตโน่-ภาคิน สื่อถึงความสนุกสุดขั้ว และ ไมค์-พิรัชต์ สื่อถึงความซ่าสุดขั้ว

สุดขั้วที่ 5 ขายให้ถึงตัว เป็นการใช้ความได้เปรียบจากประสบการณ์ การผลิต และระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง มีพนักงาน 8,000 คน โรงงาน 5 แห่ง รถขาย 1,200 คัน ตู้เย็น 1.5 แสนตู้ ร้านค้ากว่า 2 แสนแห่ง ทำให้น้ำอัดลม “เอส” เข้าถึงผู้บริโภคทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ในทันที

“เมื่ออยากดื่มผู้บริโภคต้องหยิบถึง ซึ่ง 5 ปรากฏการณ์สุดขั้วจะทำให้ เอส ก้าวเป็นเบอร์ 2 ภายในปีแรก และขยับขึ้นเป็นผู้นำตลาดภายใน 3 ปีนั่นเอง” ผู้บริหารเสริมสุข กล่าว

สำหรับตลาดน้ำอัดลมเมืองไทยมีความแตกต่างจากประเทศอื่น โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์ ประเภทขวดแก้วที่ผู้ประกอบการบางรายเลือกที่จะไม่ทำในบางประเทศ เนื่องจากต้องมีการลงทุนสูง

ในไทยมีบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วเป็นตลาดใหญ่ สัดส่วน 60-70% ของตลาดรวม และมีอัตราการขยายตัว 5-6% ต่อปี ซึ่งขวดแก้วถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของเสริมสุขที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชายไทยที่นิยมดื่มจากขวดแก้วเย็นๆ ขณะเดียวกันก็มีขวดพีอีทีและกระป๋องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่องทาง


ที่มา : bangkokbiznews.com

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 35 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน