[center]

ภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการของ ดร.ธวัชชัย สำโรงวัฒนา ประธานกรรมการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) คนใหม่ ที่ให้สัมภาษณ์พิเศษ "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงแนวทางการพัฒนากิจการนมวัวแดง ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจแบบเชิงรุก ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ด้วยการเตรียมลงทุนจัดสรรพื้นที่ในเขตมวกเหล็กให้เป็นจุดหมายท่องเที่ยวสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
รวมถึงเดินหน้ากับโครงการใหญ่ตั้งโรงงานผลิตนมผง ที่อาจต้องใช้งบประมาณลงทุนเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาท!
"ปีนี้ อ.ส.ค.จะครบรอบ 50 ปี แผนและยุทธศาสตร์ใหม่จะไม่มองเรื่องการพัฒนาโคนมในประเทศอย่างเดียว แต่ยังมองไปถึงตลาดในภูมิภาคด้วย ทำให้ช่วงเวลา 3 ปีนี้ จะเป็นปีแห่งการลงทุนอย่างแท้จริง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี" ดร.ธวัชชัย กล่าวและเสริมว่า
ตามแผนลงทุน 3 ปีมูลค่า 3,000 ล้านบาท จะใช้งบของ อ.ส.ค. เพื่อขับเคลื่อนสู่แผนการเพิ่มกำลังการผลิตนมให้ได้วันละ 1,800 ตันต่อวัน คาดว่าโรงงานแห่งใหม่ในเฟสแรกจะได้เห็นก่อนเข้าสู่เออีซีในปี 2558 และจะไปเต็มรูปแบบในปี 2560 โดยต้องรองรับการผลิตทั้งในรูปแบบนมผง และผลิตภัณฑ์นม อื่นๆ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
ขณะที่แผนการสร้างโรงงานในเชียงใหม่ หรือ ลำปาง คาดต้องใช้งบอีก 500-800 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามแผนบริหารต้นทุนการขนส่ง เพราะโรงงานแห่งใหม่จะช่วยรองรับน้ำนมดิบในโซนภาคเหนือ ซึ่งจะช่วยลดค่าขนส่งนมดิบที่เดิมต้องส่งไปยังมวกเหล็ก
และภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ อ.ส.ค.ยังได้เตรียมสร้างมูลค่าและสร้างรายได้เพิ่ม ด้วยการนำพื้นที่ที่มวกเหล็ก จำนวน 180 ไร่มาพัฒนาให้เป็นรีสอร์ทท่องเที่ยว ขณะนี้เริ่มการพัฒนาแล้วและคาดว่าจะสามารถดำเนินการในเชิงพาณิชย์เร็วๆ นี้
ทิศทางขององค์กร 50 ปีอย่าง อ.ส.ค. ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรที่สำคัญ ทั้งด้านโครงสร้าง การเงิน ยุทธศาสตร์ และวิสัยทัศน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนยุทธศาสตร์เพื่อก้าวสู่เออีซี ที่ต้องมีความพร้อมด้านบุคคลากรมาสอดรับให้องค์กรแข่งขันในธุรกิจได้
“ในช่วง 3 ปี เราปรับปรุงเครื่องจักรใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อลดความสูญเสีย ทำให้เพิ่มการผลิตได้วันละ 150 ตันต่อวัน และยังเพิ่มกำลังผลิตอีก 140 ตันต่อวันด้วยการตั้งโรงงานที่ภาคเหนือ ทำให้ประมาณการรายได้ในปี 2558 จะแตะระดับ 600-700 ล้านบาท เพิ่มจากปีนี้ที่อยู่ราว 400 ล้านบาท แต่จะเต็มรูปแบบจริงๆ ในปี 2560 ซึ่งหมายถึงโรงงานผลิตนมผงเสร็จสมบูรณ์"
สำหรับแผนการปรับปรุงโครงสร้างภายใน อ.ส.ค. จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2556 มีเป้าหมายเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน โดยเตรียมพัฒนาระบบบัญชี โดยนำระบบไอทีมาใช้ในการขาย ควบคู่ไปกับการตั้งทีมขายสำหรับตลาดต่างประเทศ เพื่อกรุยทางสู่ตลาดลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ หลังจากที่ปัจจุบันทำรายได้จากตลาดในลาวปีละ 200 ล้านบาท
นับเป็นการก้าวสู่ยุคใหม่ของ อ.ส.ค. สู่ยุคมูลค่าเพิ่มเต็มตัวด้วยแผนขยายไลน์การผลิต ขยายการตลาด และหารายได้เพิ่มเติมจากการนำพื้นที่มาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและที่พัก สอดรับกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ความสำคัญและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ก่อนเข้าสู่เออีซีอย่างเต็มตัว
ที่มา : bangkokbiznews.com