รูปภาพแจ้งข่าว ทางเว็บบอร์ด openerpthailand.org ได้เปลี่ยนระบบเว็บบอร์ด ใหม่เป็น phpBB 3.1
  1. บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
  2. สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
  3. ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
  4. ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
  5. ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
  6. ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้

บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย

โซเชียลเน็ตเวิร์ด ดันการตลาดพุ่งสูงเตรียมเปิดช่องสินค้าทำโฆษณาผ่านสื่อใหม่เพิ่ม

รวมข่าวสารเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางด้านธุรกิจที่สำคัญๆ แบ่งปันกันได้ที่หมวดนี้
Yamachita
โพสต์: 448
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 31 ต.ค. 2012 8:20 pm

โซเชียลเน็ตเวิร์ด ดันการตลาดพุ่งสูงเตรียมเปิดช่องสินค้าทำโฆษณาผ่านสื่อใหม่เพิ่ม

โพสต์โดย Yamachita » พุธ 14 พ.ย. 2012 10:20 am

'โซเชียลเน็ตเวิร์ก'บูมดันตลาดยุคใหม่
[center]รูปภาพ[/center]

นักการตลาดชี้ "โซเชียล เน็ตเวิร์ก" ดันดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งโตพุ่ง เปิดช่องสินค้าทำโฆษณาผ่านสื่อใหม่เพิ่ม เผยคนไทยใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันกว่า 16.6 ชม.มากกว่าดูทีวี
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายอนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนา "มาร์เก็ตติ้ง เดย์" หัวข้อ "Marketing in a Digital Era-Change to Win in the Socialnomics" ถึงการเติบโตของสื่อยุคใหม่ๆ อย่าง โซเชียล มีเดีย รวมถึงจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตที่ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่าย ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า และบริการเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นโจทย์ใหญ่ของนักการตลาดที่ต้องเข้าใจ และใช้สื่อใหม่เหล่านี้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น

"ยุคนี้ได้กลายเป็นยุคที่เรียกว่า socialnomic การเติบโตของโซเชียล มีเดีย ทำให้นักการตลาดต้องมีเข้าใจ ปรับตัว และใช้มันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ต้องถ่วงดุลการใช้สื่อที่เป็นออนไลน์และออฟไลน์ให้เป็น" นายอนุวัตรกล่าว

ด้านนายสุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่น กล่าวว่า วันนี้การทำการตลาด (มาร์เก็ตติ้ง) แบบธรรมดาที่รู้จักกันจะจบสิ้นลง ด้วยการปฏิวัติของโซเชียล มีเดีย ที่จะเข้ามาแทนที่การทำการตลาดยุคใหม่อย่างสิ้นเชิง

"การตลาดที่เรารู้จักวันนี้จบสิ้นลงแล้ว การทำตลาดแบบใหม่กำลังมา โลกของการตลาดจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป"

นายสุทธิชัยยกกรณีตัวอย่างของวิดีโอ "กังนัมสไตล์" ที่ฮิตในเว็บไซต์ยูทูบ โดยมียอดผู้ชมมากกว่า 798,000,000 วิว เพียงเวลาไม่กี่เดือน ถือเป็นตัวอย่างของการทำดิจิตอล มาร์เก็ตติ้งที่ไร้พรมแดน และประสบความสำเร็จมากที่สุด

เช่นเดียวกับ การเลือกตั้งประธานาธิปดีสหรัฐที่ผ่านมา "นายบารัก โอบามา" ยังใช้ทวิตเตอร์สื่อสารกับประชาชนได้ทันทีที่รู้ผลว่าชนะเลือกตั้ง ด้วยคำพูดสั้นๆ ว่า "Four more years" ทำให้ข้อความนี้ถูกรีทวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทวิตเตอร์

"การทำมาร์เก็ตติ้งยุคใหม่ต้องคิดฉับพลันเดี๋ยวนั้น ไปสู่กลุ่มเป้าหมายในทันที" นายสุทธิชัยกล่าวและว่า นอกจากนี้ กระแสการใช้สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์เคลื่อนที่ยุคใหม่ ก็เป็นตัวผลักดันสำคัญให้คนทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลได้ทันที ทุกเวลา โดยคาดว่าภายในปี 2556 โมบายจะกลายเป็นช่องทางปกติในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคน

ประธานเครือเนชั่นยังยกกรณีตัวอย่างการปรับตัวของสื่อในเครือเนชั่นที่ปัจจุบันเข้าสู่โลกของดิจิตอลอย่างเต็มตัว โดยนำ โซเชียล มีเดีย เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะแนวคิด "โซเชียล ทีวี" ที่เครือเนชั่นเป็นองค์กรสื่อแรกที่นำแนวคิดนี้มาใช้ร่วมในการรายงานข่าว โดยผู้บริโภคยุคปัจจุบันในระหว่างที่ดูทีวี จะทำกิจกรรมอื่นๆ ไปด้วย มีการใช้โซเชียล เน็ตเวิร์กในการพูดคุย คอมเมนท์ ระหว่างดูข่าว

"เนชั่นนำแนวคิดของโซเชียล ทีวี มาใช้ เพื่อให้พิธีกรข่าวได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ก หรือทวิตเตอร์ เป็นหนทางหนึ่งในการสร้างแบรนด์ลอยัลตี้ ขณะเดียวกัน นักข่าวเครือเนชั่นปัจจุบันกว่า 400 คนต่างมีแอ็กเคาท์ทวิตเตอร์ ที่พร้อมรายงานข่าวผ่านโลกโซเชียลได้ทันทีเช่นกัน" นายสุทธิชัยกล่าว

น.ส.พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาบนโลกออนไลน์กว่า 16.6 ชั่วโมง มากกว่าดูทีวี ขณะที่ช่วงเวลาที่คนดูทีวีนั้น กลับเป็นช่วงเวลาที่มีคนใช้สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตมากที่สุด ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักการตลาด หรือแบรนด์สินค้าที่ต้องพยายามทำให้กลุ่มเป้าหมายดังกล่าวสามารถเข้าถึงสินค้า หรือบริการผ่านแพลตฟอร์มโซเชียล มีเดีย

ทั้งนี้ มีผลสำรวจของกูเกิลระบุว่า ปัจจุบันการใช้เสิร์ชเอ็นจิ้นของคนไทยกว่า 75% เป็นการใช้เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการ และโซเชียล แพลตฟอร์ม ถือว่ามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการของคนยุคปัจจุบันด้วย

น.ส.ปุณณดา เหลืองอร่าม ตัวแทนเฟซบุ๊กในประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการใช้เฟซบุ๊กที่แอ็กทีฟมากที่สุด โดยกรุงเทพฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีคนใช้เฟซบุ๊กมากที่สุดในโลก จำนวนผู้ใช้งานแอ็กทีฟยูสเซอร์ 9 ล้านคน ทั้งยังเป็นช่องทางให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ทำการตลาดผ่านเฟซบุ๊ก ที่ผ่านมาเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจุดเด่นที่แบรนด์สินค้าใช้ช่องทางนี้เพราะผลสำรวจระบุว่าคนไทยชอบคอมเมนท์ และแบ่งปัน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การทำมาร์เก็ตติ้งของแบรนด์ต่างๆ

ขณะที่นายทอม ศรีวรกุล กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็นโซโก้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อัตราการเติบโตของการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ยังสร้างโอกาสให้ธุรกิจบนโลกออนไลน์เติบโตตามไปด้วย ปัจจุบันกว่า 43% ของผู้ที่ออนไลน์ในไทยจะซื้อสินค้าผ่านโลกออนไลน์ด้วย และคาดว่าปีนี้จะมีคนจับจ่ายซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต (B to C) คิดเป็นเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันมีแบรนด์สินค้าใช้งบโฆษณาผ่านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง คิดเป็น 4% ของจำนวนงบโฆษณาที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 9 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปีถัดๆ ไป


ที่มา : komchadluek.net

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 16 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน