รูปภาพแจ้งข่าว ทางเว็บบอร์ด openerpthailand.org ได้เปลี่ยนระบบเว็บบอร์ด ใหม่เป็น phpBB 3.1
  1. บุคคลทั่วไป จะไม่สามารถเข้าอ่านกระทู้บางบอร์ด แนะนำให้ท่าน สมัครสมาชิกคลิกตามลิงค์นี้
  2. สมาชิกใหม่ ถ้ายังไม่ได้แนะนำตัวจะไม่สามารถ ตั้งกระทู้ และ ดาวน์โหลด ไฟล์จากเว็บบอร์ดได้ ท่านจำเป็นต้องแนะนำตัวที่หมวดนี้
  3. ถ้ามีปัญหาการใช้งาน หรือ ข้อเสนอแนะใดๆ แนะนำได้ที่นี่
  4. ปุ่มรูปหัวใจใต้โพส แต่ละโพส ท่านสามารถกดเพื่อสื่อถึงคนโพสนั้นถูกใจท่าน
  5. ห้ามลง E-mail, เบอร์โทรส่วนตัว, Line id หรือข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างและโฆษณาแฝง โดยสามารถติดต่อสมาชิกท่านอื่นผ่านระบบ PM ของบอร์ด
  6. ท่านสามารถปิดการแจ้งนี้ได้ ที่มุมขวาของกล่องข้อความนี้

บุคคลทั่วไปสามาเข้าสู่ระบบ ด้วย Account ของ FaceBook ได้แล้ว คลิกที่นี่ได้เลย

เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ผุดร้านค้าแบรนด์เนมระดับหรูระดับโลกในรูปแบบ ซิกเนอร์เจอร์สโตร์

รวมข่าวสารเกี่ยวกับ ธุรกิจ ความเคลื่อนไหวทางด้านธุรกิจที่สำคัญๆ แบ่งปันกันได้ที่หมวดนี้
Yamachita
โพสต์: 448
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 31 ต.ค. 2012 8:20 pm

เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ผุดร้านค้าแบรนด์เนมระดับหรูระดับโลกในรูปแบบ ซิกเนอร์เจอร์สโตร์

โพสต์โดย Yamachita » อังคาร 13 พ.ย. 2012 10:41 am

เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ผุด150 แบรนด์เนม "ซิกเนอร์เจอร์ สโตร์" รับเทรนด์สินค้าหรูอนาคตหลังผลวิจัยระบุไทยเป็นหนึ่งปลายทางแหล่งสินค้าลักชัวรีระดับโลก

นายชาติ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการโครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ภายใต้บริษัทเซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น(ซีอาร์ซี) ผู้บริหารธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดเผยว่าโครงการฯดังกล่าวดำเนินการขายพื้นที่ไปแล้ว90% ซึ่งจะมีร้านค้าแบรนด์เนมระดับหรู(ลักชัวรี แบรนด์)ระดับโลกในรูปแบบ “ซิกเนอร์เจอร์ สโตร์” มากกว่า150 แบรนด์ ซึ่งจะมีความพิเศษมากกว่าร้านค้าต้นแบบขนาดใหญ่(แฟลกชิป สโตร์)ในศูนย์การค้าอื่นๆในขณะนี้และในอนาคต

สำหรับร้านค้าแบรนด์เนมหรูหรา อาทิ ชาแนล, กุชชี, พราดา, ราฟ ลอเรนซ์, โบเตกา เวเนตา, เซนต์ ลอเรนซ์, มัลเบอร์รี, บาเลนซิกา, พอล สมิทธ์, ปาเต๊ก ฟิลลิปป์, เป็นต้น รวมถึงแบรนด์เนมหรูใหม่ที่จะเข้ามเปิดในไทยเป็นแห่งแรก เช่น จอห์น วาร์เวโตส์ และโรเบิร์ต คาวาลลี ฯลฯ ซึ่งขณะนี้ร้านค้าดังกล่าวอยู่ระหว่างดำเนินการออกแบบตกแต่งภายในร้านให้ ซึ่งเจ้าของสินค้าจะลงทุนเองนอกเหนือจากงบรวมโครงการกว่า1หมื่นล้านบาท

ขณะเดียวกันยังจะต้องสอดคล้องกับแนวทางการบริหารธุรกิจของโครงการฯ ภายใต้แนวคิด “4ไอ(เอส)” คือ อินฟลูเอ็นเชียล, ไอคอนนิค, อินดิวิดวล และ อินสไปริง ซึ่งโครงการฯมีพื้นที่ทั้งหมดราว 1.4แสนตร.ม. แบ่งสัดส่วนพื้นที่เป็น แฟชัน ลักชัวรี และ บริดจ์ ไลน์ 40%, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 30% และ ไลฟ์สไตล์-เอ็นเตอร์เทนเมนต์ อีก30% โดยโครงการฯอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และพร้อมเปิดให้บริการในส่วนศูนย์การค้าเดือนธ.ค.2556 และส่วนโรงแรมปาร์ค ไฮแอทในเดือนก.ย.2557

นายชาติ กล่าวว่ารูปแบบโครงการฯ ยังรองรับในกระแสสินค้าหรูหราในอนาคต(ฟิวเจอร์ ลักชัวรี)ระดับโลก ที่สินค้าหรูแบรนด์เนมต้องการสร้งประสบการณ์ให้กับลูกค้ารวมถึงความเป็นเอกลักษณ์ในตัวสินค้าหรือแบรนด์เฉพาะมากขึ้น ไม่ใช่รูปแบบของสินค้าหรูหราแบบดั้งเดิม(ทราดิชันแนล ลักชัวรี แบรนด์เนม) ที่หมายถึงสินค้าหรูหราราคาแพงเท่านั้น ซึ่งกระแสดังกล่าว ได้เริ่มขยายไปยังตลาดผู้บริโภคในเอเชีย รวมถึงไทยมากขึ้น

นอกจากนี้ จากการสำรวจของ Ledburry Group ผู้วิจัยตลาดสินค้าหรูหราระดับโลก ระบุว่าปัจจุบันประเทศไทย ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งปลายทายสินค้าหรูหรา(ลักชัวรี เดสติเนชัน)ระดับโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้(อาเซียน) ซึ่งค้าปลีกไทยถือว่ามีความแข็งแกร่งที่สุด นอกจากนี้ผลวิจัยยังระบุอีกว่ากำลังซื้อจากประเทศไทยในยังติดอันดับ6ของโลก ที่มีการขอรับเงินภาษีนักท่องเที่ยวคืน(แท็ค รีฟันด์) ในปัจจุบันด้วย

ทั้งนี้เมื่อโครงการฯเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะทำให้ย่านเพลินจิตกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการจับจ่ายซื้อสินค้าหรูหราที่โดดเด่นใจกลางมหานครของประเทศไทย เทียบเท่าได้กับย่าน ฟิฟท์ อเวนิว ในนิวยอร์ค ย่านกินซ่า ญี่ปุ่น หรือ ออชาร์ด สิงคโปร์ รวมถึงแหล่งชอปปิงหรูหรา ในปารีส ฝรั่งเศสด้วย จากปัจจุบันได้มีการรวมกลุ่มเป็น เพลินจิต ซิตี ประกอบด้วย โครงการปาร์คเวนเจอร์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, โครงการโนเบิล, ปาร์ค นายเลิศ และ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี


ที่มา : posttoday.com

ย้อนกลับไปยัง

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: 16 และ บุคคลทั่วไป 0 ท่าน