
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่าจากที่ธนาคารจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเค-เอสเอ็มอี จำกัด (K-SME VentureCapital) เพื่อร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีของไทยที่มีศักยภาพและต้องการหาเงินทุนในการขยายธุรกิจ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการเงินร่วมลงทุน ข้าวกล้าจำกัด (บลท.ข้าวกล้า) เป็นผู้บริหารเงินร่วมลงทุนและพิจารณาคัดเลือกเอสเอ็มอีเพื่อร่วมถือหุ้น โดยที่ผ่านมาของ บลท.ข้าวกล้า คือ เข้าไปร่วมทุนในธุรกิจเอสเอ็มอีรวม 13 ราย รวมเป็นเงินลงทุนกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มี 2 ราย ที่ได้นำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว และอีก 3 ราย ที่อยู่ระหว่างเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต
ล่าสุด บริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอีได้พิจารณาเข้าร่วมถือหุ้นในเอสเอ็มอี2 บริษัท วงเงินร่วมทุน 78.2 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท โอ แอนด์ เอช ฮันนี่คอมป์เปเปอร์จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษรังผึ้ง และบริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด ผู้ให้บริการขนส่งภายในและต่างประเทศ
นางสาวปฐมาพร ไชยกูล กรรมการผู้จัดการ บลท.ข้าวกล้ากล่าวถึง ทิศทางการลงทุนในอนาคตจะยังคงนโยบายสนับสนุนเอสเอ็มอีเพื่อเป็นทางเลือกของแหล่งเงินทุนต่อไปรวมทั้งกำลังพิจารณาร่วมลงทุนอีก3-4 ราย โดยมุ่งลงทุนในบริษัทใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพื่อให้ก่อเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ ได้กำหนดนโยบายร่วมลงทุนในเอสเอ็มอีแต่ละบริษัทในสัดส่วน 10-50% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการร่วมทุน มีระยะเวลาการร่วมทุน 3-5 ปี โดยจะให้อิสระในการบริหารกิจการแก่เจ้าของบริษัท และมีนโยบายกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยจะลงทุนในอุตสาหกรรมใด อุตสาหกรรมหนึ่งไม่เกิน 1 ใน 3 ของเงินทุนทั้งหมด สำหรับผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนที่ผ่านมา เฉลี่ยตั้งแต่เริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจต่างๆ อยู่ประมาณ 20% ต่อปี
ที่มา : naewna.com