ภาษีธุรกิจเฉพาะ เป็นภาษีทางอ้อมที่เก็บจากฐานบริโภคทั่วไปภายในประเทศไทย โดยจะจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ คือ บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งได้แก่ประเภทกิจการดังนี้
1.การธนาคาร
2.การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
3.การรับประกันชีวิต
4.การรับจำนำ
5.การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
6.การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร การจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ1. การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะ กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ที่ ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ
2. กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
3. การให้กู้ยืมเงินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจดังกล่าว ซึ่งให้กู้ยืมเงินเป็นครั้งคราวมิใช่การประกอบกิจการเป็นปกติธุระ
การยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามแบบ ภ.ธ. 40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การยื่นแบบ ภ.ธ. 40 และชำระภาษี ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขตท้องที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่
PT40_090355.pdf
เอกสารหลักฐานและบัญชีที่ต้องจัดทำ ผู้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะนอกจากต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วยังมีหน้าที่ต้องทำรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่าย ทั้งที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและที่ไม่ต้องเสียรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยต้องจัดทำรายงานแสดงเป็นรายวัน และรวมยอดเมื่อถึงสิ้นเดือนทุกเดือน ต้องจัดตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดเป็นรายสถานประกอบ กิจการ และการลงรายการต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ทำการนับแต่วันที่มี รายรับ รายงานที่ต้องจัดทำและหลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี โดยเก็บไว้ ณ สถาน-ประกอบการที่ได้จัดทำรายงาน หากผู้ประกอบกิจการจะเก็บรักษารายงานและ หลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานไว้ ณ สถานที่อื่นจะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดี กรมสรรพากรก่อน
รูปภาพ1.jpg
[b][size=110]ภาษีธุรกิจเฉพาะ[/size][/b] เป็นภาษีทางอ้อมที่เก็บจากฐานบริโภคทั่วไปภายในประเทศไทย โดยจะจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง
[b][size=150]ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ[/size][/b]
คือ บุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งได้แก่ประเภทกิจการดังนี้
[size=120]1.การธนาคาร
2.การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
3.การรับประกันชีวิต
4.การรับจำนำ
5.การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
6.การขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร [/size]
[b][size=150]การจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ[/size][/b]
1. การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องเสียธุรกิจเฉพาะ กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ที่ ผู้ขายมีไว้ในการประกอบกิจการ
2. กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
3. การให้กู้ยืมเงินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ ตามกฎหมายว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจดังกล่าว ซึ่งให้กู้ยืมเงินเป็นครั้งคราวมิใช่การประกอบกิจการเป็นปกติธุระ
การยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี ผู้ประกอบกิจการมีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีตามแบบ ภ.ธ. 40 ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป การยื่นแบบ ภ.ธ. 40 และชำระภาษี ให้ยื่น ณ ที่ว่าการอำเภอหรือเขตท้องที่สถานประกอบกิจการตั้งอยู่
[attachment=1]PT40_090355.pdf[/attachment]
เอกสารหลักฐานและบัญชีที่ต้องจัดทำ ผู้ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะนอกจากต้องจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วยังมีหน้าที่ต้องทำรายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่าย ทั้งที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะและที่ไม่ต้องเสียรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยต้องจัดทำรายงานแสดงเป็นรายวัน และรวมยอดเมื่อถึงสิ้นเดือนทุกเดือน ต้องจัดตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดเป็นรายสถานประกอบ กิจการ และการลงรายการต้องจัดทำให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ทำการนับแต่วันที่มี รายรับ รายงานที่ต้องจัดทำและหลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี โดยเก็บไว้ ณ สถาน-ประกอบการที่ได้จัดทำรายงาน หากผู้ประกอบกิจการจะเก็บรักษารายงานและ หลักฐานประกอบกิจการจัดทำรายงานไว้ ณ สถานที่อื่นจะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดี กรมสรรพากรก่อน
[attachment=0]รูปภาพ1.jpg[/attachment]