โพสต์ โดย Yamachita » จันทร์ 01 เม.ย. 2013 10:53 am
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยว่า บริษัทจะเดินหน้าขยายฐานธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างโดดเด่นและมั่นคงในระยะยาว ขณะนี้พร้อมต่อยอดธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม ไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนจากกากอุตสาหกรรม (Refuse Derived Fuel Project)ซึ่งการคัดแยกและแปรรูปกากอุตสาหกรรมที่บริษัทรับเข้ามากำจัด ได้แก่ กากอุตสาหกรรมประเภทเศษหนัง กระดาษ พลาสติก บรรจุภัณฑ์ เศษผ้าปนเปื้อน วัสดุดูดซับ ยาง วัสดุผสม ไปเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (RDF) จำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการเชื้อเพลิงทดแทน เนื่องจากเชื้อเพลิงที่บริษัทผลิตได้มีราคา 1,000-1,500 บาทต่อตัน ต่ำกว่าเชื้อเพลิงอื่น เช่น ถ่านหิน ที่โรงงานอุตสาหกรรมใช้ในปัจจุบัน 1-2 เท่าตัว ในขณะที่ค่าความร้อนที่ได้รับไม่ต่างกันมากนัก โครงการ RDF จะมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,000 ตันต่อวัน
ตั้งเป้าขายถ่านหินปีนี้8ล้านตัน
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่าธุรกิจพลังงานถ่านหินยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก มีความต้องการใช้ทั้งในไทยและต่างประเทศ และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่มีราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมัน ประกอบกับบริษัทสามารถขุดถ่านหินจากเหมืองถ่านหินของตัวเองที่ประเทศอินโดนีเซียส่งขายได้ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา และเหมืองในประเทศพม่า ซึ่งจะสามารถออกถ่านหินได้ภายในปลายปี 2556 นี้ จึงทำให้เชื่อว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินในปี 2556 ของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 ล้านตัน ได้อย่างแน่นอนทั้งนี้บริษัทยังคงเดินตามแผน โดยการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินที่มีปริมาณสำรองของถ่านหินในปริมาณค่อนข้างสูงเพื่อลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวต่อบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาว ทำให้อัตรากำไรดีขึ้น
ที่มา : naewna.com
นายสุวัฒน์ เหลืองวิริยะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เปิดเผยว่า บริษัทจะเดินหน้าขยายฐานธุรกิจให้กว้างขวางขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างโดดเด่นและมั่นคงในระยะยาว ขณะนี้พร้อมต่อยอดธุรกิจกำจัดกากอุตสาหกรรม ไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนจากกากอุตสาหกรรม (Refuse Derived Fuel Project)ซึ่งการคัดแยกและแปรรูปกากอุตสาหกรรมที่บริษัทรับเข้ามากำจัด ได้แก่ กากอุตสาหกรรมประเภทเศษหนัง กระดาษ พลาสติก บรรจุภัณฑ์ เศษผ้าปนเปื้อน วัสดุดูดซับ ยาง วัสดุผสม ไปเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (RDF) จำหน่ายให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการเชื้อเพลิงทดแทน เนื่องจากเชื้อเพลิงที่บริษัทผลิตได้มีราคา 1,000-1,500 บาทต่อตัน ต่ำกว่าเชื้อเพลิงอื่น เช่น ถ่านหิน ที่โรงงานอุตสาหกรรมใช้ในปัจจุบัน 1-2 เท่าตัว ในขณะที่ค่าความร้อนที่ได้รับไม่ต่างกันมากนัก โครงการ RDF จะมีกำลังการผลิตรวมประมาณ 1,000 ตันต่อวัน
ตั้งเป้าขายถ่านหินปีนี้8ล้านตัน
นายขจรพงศ์ คำดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์ยี่เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH เปิดเผยว่าธุรกิจพลังงานถ่านหินยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก มีความต้องการใช้ทั้งในไทยและต่างประเทศ และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นพลังงานทางเลือกที่มีราคาต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการใช้น้ำมัน ประกอบกับบริษัทสามารถขุดถ่านหินจากเหมืองถ่านหินของตัวเองที่ประเทศอินโดนีเซียส่งขายได้ตั้งแต่ต้นปี 2556 ที่ผ่านมา และเหมืองในประเทศพม่า ซึ่งจะสามารถออกถ่านหินได้ภายในปลายปี 2556 นี้ จึงทำให้เชื่อว่าปริมาณการจำหน่ายถ่านหินในปี 2556 ของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8 ล้านตัน ได้อย่างแน่นอนทั้งนี้บริษัทยังคงเดินตามแผน โดยการเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหินที่มีปริมาณสำรองของถ่านหินในปริมาณค่อนข้างสูงเพื่อลดความเสี่ยงในด้านการจัดหาวัตถุดิบ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวต่อบริษัท อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ในระยะยาว ทำให้อัตรากำไรดีขึ้น
ที่มา : naewna.com