“ตำเพลิน” ร้านอาหารอีสาน รสแซบต้นตำรับจากโคราช ของดาราสาว จุ๋ย “วรัทยา นิลคูหา” ที่ควักกระเป๋าลงขันร่วมทุนกับอดีตคนรู้ใจ “นิว” วงศกร ปรมัตถากร และเพื่อนนอกวงการ โดยยึดพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสุขาภิบาล 5
วรัทยา เล่าว่า ที่มาของร้านตำเพลินเกิดขึ้นมาจาก ส่วนตัวเป็นคนชอบทำอาหาร และชอบรับประทานโดยเฉพาะอาหารอีสาน เมนูที่โปรดคือ "ส้มตำ" แต่หาร้านที่ถูกใจค่อนข้างยาก และตนเองเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบรับประทาน ส้มตำเหมือนกับตัวเอง โดยดูจากร้านอาหารอีสานทั้งเล็ก และใหญ่ที่เปิดกันอยู่เป็นจำนวนมากทุกพื้นที่ ก็เลยเกิดความคิดว่า เราน่าจะทำร้านอาหารอีสาน ในสไตล์ที่แตกต่างจากร้านอาหารอีสานทั่วไป เพราะเน้นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นนั่งสบายๆ เหมือนกับการรับประทานอาหารกันในครอบครัวเดียวกัน
โดยได้ร่วมกับเพื่อน จำนวน 4 หุ้น ใช้เงินลงทุนครั้งนี้ เป็นหลักล้านบาท และได้ลงมือตกแต่งร้านด้วยตัวเอง โดยเลือกใช้โทนสีเย็นอย่างสีเทา จากนั้นกระตุ้นความหิวและความอยากอาหารด้วยแสงไฟสีส้ม ส่วนของผนังถูกแต่งแต้มให้มีชีวิตชีวาด้วยการเพ้นต์สีเป็นลวดลายธรรมชาติ ซึ่งพื้นที่ของร้านจะรองรับลูกค้าได้ประมาณ 80 คน แต่ส่วนใหญ่เวลาที่ลูกค้าจะมาใช้บริการจะมีแค่ 2 ช่วง คือกลางวัน และหลังเลิกงานตอนเย็น และค่ำ และที่เลือกพื้นที่ดังกล่าว เพราะเห็นว่ามีร้านอาหารเปิดน้อย น่าจะมีคู่แข่งอยู่น้อย ประกอบกับบ้านอยู่ในห่างจากร้านมากนัก จะได้มีเวลามาดูแลร้านเมื่อมีเวลาว่าง แต่ส่วนใหญ่หน้าที่ตรงนี้จะตกอยู่ที่เพื่อน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนมากกว่า แต่ถ้ามีเวลาก็จะแวะเวียนมา
ส่วนรายได้ของทางร้านไม่แน่นอนในแต่ละเดือน แต่ก็เรียกได้ว่าไม่ขาดทุน กำไรก็ไม่ได้มาก เพราะในแต่ละเดือนต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างมากถึงเดือนละ 400,000-500,000 บาท รายได้ที่ได้มากจึงเป็นค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 2 ปี
ตำเพลิน.jpg
ที่มา : manager.co.th
“ตำเพลิน” ร้านอาหารอีสาน รสแซบต้นตำรับจากโคราช ของดาราสาว จุ๋ย “วรัทยา นิลคูหา” ที่ควักกระเป๋าลงขันร่วมทุนกับอดีตคนรู้ใจ “นิว” วงศกร ปรมัตถากร และเพื่อนนอกวงการ โดยยึดพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาสุขาภิบาล 5
วรัทยา เล่าว่า ที่มาของร้านตำเพลินเกิดขึ้นมาจาก ส่วนตัวเป็นคนชอบทำอาหาร และชอบรับประทานโดยเฉพาะอาหารอีสาน เมนูที่โปรดคือ "ส้มตำ" แต่หาร้านที่ถูกใจค่อนข้างยาก และตนเองเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ชื่นชอบรับประทาน ส้มตำเหมือนกับตัวเอง โดยดูจากร้านอาหารอีสานทั้งเล็ก และใหญ่ที่เปิดกันอยู่เป็นจำนวนมากทุกพื้นที่ ก็เลยเกิดความคิดว่า เราน่าจะทำร้านอาหารอีสาน ในสไตล์ที่แตกต่างจากร้านอาหารอีสานทั่วไป เพราะเน้นการสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นนั่งสบายๆ เหมือนกับการรับประทานอาหารกันในครอบครัวเดียวกัน
โดยได้ร่วมกับเพื่อน จำนวน 4 หุ้น ใช้เงินลงทุนครั้งนี้ เป็นหลักล้านบาท และได้ลงมือตกแต่งร้านด้วยตัวเอง โดยเลือกใช้โทนสีเย็นอย่างสีเทา จากนั้นกระตุ้นความหิวและความอยากอาหารด้วยแสงไฟสีส้ม ส่วนของผนังถูกแต่งแต้มให้มีชีวิตชีวาด้วยการเพ้นต์สีเป็นลวดลายธรรมชาติ ซึ่งพื้นที่ของร้านจะรองรับลูกค้าได้ประมาณ 80 คน แต่ส่วนใหญ่เวลาที่ลูกค้าจะมาใช้บริการจะมีแค่ 2 ช่วง คือกลางวัน และหลังเลิกงานตอนเย็น และค่ำ และที่เลือกพื้นที่ดังกล่าว เพราะเห็นว่ามีร้านอาหารเปิดน้อย น่าจะมีคู่แข่งอยู่น้อย ประกอบกับบ้านอยู่ในห่างจากร้านมากนัก จะได้มีเวลามาดูแลร้านเมื่อมีเวลาว่าง แต่ส่วนใหญ่หน้าที่ตรงนี้จะตกอยู่ที่เพื่อน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนมากกว่า แต่ถ้ามีเวลาก็จะแวะเวียนมา
ส่วนรายได้ของทางร้านไม่แน่นอนในแต่ละเดือน แต่ก็เรียกได้ว่าไม่ขาดทุน กำไรก็ไม่ได้มาก เพราะในแต่ละเดือนต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างมากถึงเดือนละ 400,000-500,000 บาท รายได้ที่ได้มากจึงเป็นค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 2 ปี
[attachment=0]ตำเพลิน.jpg[/attachment]
ที่มา : manager.co.th