โพสต์ โดย Yamachita » ศุกร์ 19 เม.ย. 2013 10:17 am
[center][img]http://pics.manager.co.th/Images/556000004865702.JPEG[/img][/center]
ด้วยความที่เรียนจบมาทางด้านสถาปัตยกรรม จำเป็นต้องคิดต่างเพื่อรังสรรค์ผลงานให้โดดเด่น แปลกใหม่จากที่เคยเป็น และเมื่อต้องทำธุรกิจก็ต้องไม่ซ้ำใคร ประเดิมนำไอศกรีมปั่นกับเหล้าแต่ไม่เวิร์ก หันกลับมองไอศกรีมกะทิสดแบบรถเข็น เกิดไอเดียยกระดับสร้างสีสันพัฒนาคุณภาพ แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ฉบับไทยแท้สู่ “ไอติมกะทิสด ละมุน”
ดนุพนธ์ อำนวยปรีชากุล เจ้าของไอติกะทิสด ตรา ละมุน เล่าว่า ด้วยความที่ตนเองมีความคิดไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเท่าไรนัก ประกอบกับอาชีพที่ทำอยู่ด้านสถาปัตยกรรม ทำให้ต้องคิดต่างอยู่เสมอเพื่อนำเสนอผลงานที่แปลกใหม่แก่ลูกค้า เมื่อคิดจะทำธุรกิจสักอย่างหนึ่งโจทย์แรกที่คำนึงถึงคือการสร้างความต่าง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเริ่มจากองค์ความรู้พื้นฐานก่อนจึงจะพัฒนาไปสู่ผลงานที่สร้างสรรค์ได้
เริ่มจากในช่วงที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย ก็มักทำสินค้าแปลกๆ มาขาย จนเกิดไอเดียอยากทำสินค้ามาขายที่ตลาดนัดสวนจตุจักรบ้าง เพราะผู้คนมีความหลากหลายน่าจะชื่นชอบสินค้าของตนบ้าง ประเดิมธุรกิจร้านไอศกรีม ที่นำเหล้ามาปั่นเข้าด้วยกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจึงหยุดกิจการไป แต่ค้นพบว่าไอศกรีมเป็นสินค้าที่ยังโอกาสเติบโตในตลาดได้ดี เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ซึ่งหากสร้างความแตกต่างในเรื่องของรสชาติได้น่าจะเป็นธุรกิจที่มีอนาคต
จึงเริ่มไปเรียนสูตรการทำไอศกรีมมา 1 วัน หมั่นฝึกฝนพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง จนกลายสูตรไอศกรีมเจลลาโต แบบโฮมเมดของตัวเอง ส่งขายตามร้านอาหาร ร้านเบเกอรี หรือร้านค้าทั่วไปที่ต้องการไอศกรีมโฮมเมดเป็นเมนูเสริมของร้าน แต่ธุรกิจก็ถือว่าไม่ได้เติบโตหวือหวานักเพราะในช่วงดังกล่าวกระแสไอศกรีมโฮมเมดมาแรงผู้ประกอบการหลายรายแห่ทำ
[center][img]http://pics.manager.co.th/Images/556000004865709.JPEG[/img][/center]
กระทั่งได้มาเดินเที่ยวที่ตลาดนัดสวนจตุจักรอีกครั้ง เห็นไอศกรีมกะทิแบบรถเข็นขายดี จึงเกิดไอเดียอยากพัฒนาไอศกรีมกะทิแบบรถเข็นให้ดูทันสมัย แต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความเป็นไอศกรีมกะทิของไทย รวมถึงใส่ใจในเรื่องความสะอาดและรสชาติ และเน้นวัตถุดิบคุณภาพมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะตอบโจทย์คนไทยที่ชื่นชอบไอศกรีมกะทิแต่ยังกังวลเรื่องความสะอาดได้
“โดยส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบรับประทานไอศกรีมกะทิอยู่แล้วโดยเฉพาะการทานคู่กับขนมปัง แต่เมื่อมองตลาดธุรกิจนี้อย่างจริงจัง พบว่า ยังไม่ค่อยมีใครพัฒนาธุรกิจนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องความสะอาด เน้นแต่ทำให้ราคาถูกผู้คนทุกเพศทุกวัยหาซื้อรับประทานได้ง่าย ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพมากนัก ดังนั้นผมจึงพัฒนาสูตรไอศกรีมกะทิสดขึ้น เพิ่มรสชาติแปลกใหม่แต่คงไว้ซื้อความคุ้นเคยของผู้บริโภค เช่น ชาเย็น โอวัลติน โกปี๊ (กาแฟโบราณ) และรสฟิวชั่น (กะทิสดผสมชาเขียว) กับแบรนด์ ไอติมกะทิสด ตรา ละมุน”
ไม่เพียงแต่เขาจะพัฒนาในเรื่องรสชาติเน้นวัตถุดิบเกรดเอแล้ว ยังปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้ดูแปลกตา น่ารับประทานขึ้น อย่าง เมนูไอติมกะทิสดขนมไทย ได้แก่ ลอดช่องละมุน (ไอติม 4 ลูก ลอดช่อง ขนุน ข้าวโพด) ติมกะลิง (ไอติมกะทิ 4 ลูก กล้วยเชื่อม กล้วยบวชชี กล้วยตาก) ทับทิมละมุน (ไอติมกะทิ 4 ลูก ทับทิมกรอบทรงเครื่อง ขนุน) ฟักทองแกงบวดละมุน (ไอติมกะทิ 4 ลูก ฟักทอง เผือกทอด ทองม้วน) หรือเมนูไทยๆ ที่หลายคนคุ้นเคย ติมปัง (ไอศกรีมบนขนมปัง) , สามช่า (ไอศกรีม 3 รสชาติ) และโอวัลตินภูเขาไฟ (โรยผงโอวัลติน) เป็นต้น
ขณะที่รถเข็นไอติมก็มีการปฏิวัติรูปแบบใหม่เช่นกัน เน้นแนวย้อนยุคชูความต่างด้วยทอปปิ้งที่หลากหลาย อย่าง ปาท่องโก๋ตัวเล็ก กล้วยตาก กล้วยบวชชี ลอดช่อง ทับทิมกรอบ ส่วนทอปปิ้งพื้นฐานที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดีก็ยังมีอยู่
แม้ไอติมกะทิสด ตรา ละมุน จะเปิดขายมาได้เพียง 9 เดือนเท่านั้น แต่ถือว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาด ทั้งที่ราคาก็สูงกว่าท้องตลาดทั่วไป ถึงถ้วยละ 35-45บาท ทว่ามีลูกค้าซื้อซ้ำ กลายเป็นลูกค้าประจำในที่สุด ปัจจุบันร้านไอติมกะทิสด ตรา ละมุน ยังไม่มีหน้าร้าน อาศัยการออกบูธตามงานต่างๆ ในห้างสรรพสินค้า เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักและให้ลูกค้าทดลองชิมไอติมกะทิสดรูปแบบใหม่
อนาคตได้วาดฝันให้ธุรกิจนี้ออกมาในรูปแบบแฟรนไชส์ แต่ต้องหาหน้าร้านก่อนเพื่อใช้เป็นร้านต้นแบบ โดยคิดรูปแบบแฟรนไชส์คร่าวๆ ไว้ว่าจะไม่มีการเก็บค่าแฟรนไชส์ฟี (Franchise Fee) ผู้สนใจจะได้อุปกรณ์ครบพร้อมเปิดร้าน เบื้องต้นคำนวณเงินลงทุนเบื้องต้นอยู่ที่ 70,000 บาท เน้นทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่าน เดินทางมาพักเที่ยวหรือพักผ่อน เช่น ตลาดน้ำ ศูนย์การค้า หรือตลาดนัดออฟฟิศ
ที่มา : [urlx=http://www.manager.co.th/]www.manager.co.th[/urlx]